PLANB - ซื้อ

PLANB - ซื้อ

ประมาณการ 3Q63: ผลประกอบการจะดีขึ้น QoQ

Event

ประมาณการ 3Q63

lmpact

ผลประกอบการ 3Q63 จะดีขึ้น QoQ แต่แย่ลง YoY

เราคาดว่า PLANB จะขาดทุนสุทธิ 8 ล้านบาทใน 3Q63 ดีขึ้นจากที่ขาดทุนสุทธิถึง 85 ล้านบาทใน 2Q63 แต่แย่ลงจากที่เคยมีกำไรสุทธิ 186 ล้านบาทใน 3Q62 โดยผลประกอบการที่ดีขึ้น QoQ เป็นเพราะรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 842 ล้านบาท (+28% QoQ) เนื่องจากรายได้จากธุรกิจสื่อเริ่มกลับมา บวกกับความสามารถในการให้บริการ เพิ่มขึ้น 23% และอัตราการใช้สื่อเพิ่มขึ้นเป็น 41% จาก 31.4% ใน 2Q62 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่แย่ลง YoY เป็นเพราะอัตราการใช้สื่อ ลดลงจาก 76% ใน 3Q62 ตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และผลกระทบจาก COVID-19 บวกกับรายได้จากการจัดกิจกรรม engagement marketing ลดลง (ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ ลีก และ BNK 48) เนื่องจากมีจำนวนการจัดกิจกรรมน้อยลง

คาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ตั้งแต่ 4Q63 เป็ นต้นไป

เราคาดว่า PLANB จะพลิกเป็นกำไรได้ใน 4Q63 และกำไรจะโตต่อเนื่องได้ในปี 2564 เนื่องจาก i) คาดรายได้จากสื่อนอกบ้านเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ซึ่งจะทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่นอกบ้านมากขึ้น ii) รายได้จากโครงการให้บริการป้ายโฆษณาใน 7-Eleven เพิ่มขึ้นตามจำนวนจอโฆษณาที่ตั้งเป้าจะติดตั้งในสาขาร้าน 7-Eleven เพิ่มขึ้นจาก 850 สาขาใน 3Q63 เป็น 1,000 สาขาในปีนี้ และ 1,500 สาขาในปีหน้า iii) PLANB จะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโอลิมปิก โตเกียว ตั้งแต่ 4Q63 เป็นต้นไป เนื่องจากบริษัทจะมีการออกอากาศรายการแนะนำทีมนักกีฬาไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563-64 ลงเพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอใน 9M63

เราปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอใน 9M63 โดยเราได้ปรับสมมติฐานสำคัญดังนี้ i) ปรับลดรายได้ปีนี้ลง 4% แต่ปรับเพิ่มรายได้ปี 2564 ขึ้นอีก 1% โดยปรับลดอัตราการใช้สื่อโฆษณาปีนี้ลง 3% แต่ยังคงของปีหน้าเอาไว้เท่าเดิม ii) ปรับเพิ่มต้นทุนปี 2563-64 ขึ้นอีก 1% -
6% รวมทั้งปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2563-64 ลง 17% และ 9% ตามลำดับ ทั้งนี้ หลังจากปรับสมมติฐานข้างต้นแล้วทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ของเราลดลงจากเดิม 71% เหลือ 40 ล้านบาท (-95% YoY) และปี 2564 ลดลงจากเดิม 7% เหลือ 683 ล้านบาท (+1,610% YoY)

Valuation & Action

ภายใต้ประมาณการใหม่ ทำให้ราคาเป้าหมายปี 2564 ลดลงเหลือ 6.20 บาท (PER ที่ 35.3x เท่ากับค่าเฉลี่ยสามปีย้อนหลัง -1.0 S.D.) จากเดิมที่ 6.70 บาท เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2564

Risks

รายได้ต่ำเกินคาด