ราคาน้ำมันดิบ ปรับขึ้น ตลาดจับตานโยบายเศรษฐกิจจีน ดอกเบี้ยสหรัฐ
ราคาน้ำมันดิบ ปรับขึ้นในสัปดาห์นี้ ด้วยการคาดการณ์ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีนและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงไปอีกในสหรัฐ
รอยเตอร์สรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ (3 ธ.ค.) ส่วน น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตสัญญาล่วงหน้าของสหรัฐ (WTI) เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.13% ปิดที่ 73.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้นประมาณ 3% สำหรับสัปดาห์นี้ ขณะที่ WTI เพิ่มขึ้นเกือบ 5%
สัญญาณความเปราะบางทางเศรษฐกิจจีน ทำให้ตลาดเชื่อมากขึ้นว่า รัฐบาลจีนจะออกมาตรการเพื่อเพิ่มกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยจีนเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก
"ปัจจัยเศรษฐกิจจีนจะมีบทบาทสำคัญในปี 2025 ตลาดมีความหวังมากกับมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลเพื่อเพิ่มการบริโภค ซึ่งจะเพิ่มความต้องการน้ำมันในเดือนต่อ ๆ ไป" อเล็กซ์ โฮเดส นักวิเคราะห์จาก StoneX บริษัทบริการด้านการเงินกล่าว
จีนเพิ่มค่าจ้างให้กับข้าราชการ (ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ) อย่างที่ตลาดไม่ได้คาดคิด ซึ่งจะอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนยังคอยติดตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมโดยธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ
อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมัน โดยค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมที่ลดต่ำลง ยังช่วยเพิ่มการบริโภค
สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล เหลือ 415.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐ เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากโรงกลั่นเพิ่มการผลิต แม้ว่าความต้องการเชื้อเพลิงจะลดลงถึงระดับต่ำสุดในรอบสองปี
ผู้ค้ากำลังติดตามการพยากรณ์อากาศล่าสุดและความเป็นไปได้ของการเกิดหนาวเย็นในสหรัฐและยุโรป ที่อาจเพิ่มความต้องการดีเซลสำหรับการทำความร้อนในสัปดาห์ที่จะถึงนี้