CK - ซื้อ

CK - ซื้อ

แล้วมันก็จะผ่านไป

Event

Analyst meeting.

Impact

Backlog ในปัจจุบันต่ำสุดในรอบหลายปี แต่คาดว่าจะพุ่งขึ้นในปีหน้า

Backlog ในปัจจุบันของ CK อยู่ที่ 3.15 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าบริษัทมีโอกาสจะได้ backlog เพิ่มในปี 2564 จากการเข้าร่วมประมูลหลายโครงการ อย่างเช่น i) รถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก (มูลค่างานโยธา 9 หมื่นล้านบาท และงาน O&M 3 หมื่นล้านบาท) ii) โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ (งานโยธา 6 สัญญามูลค่ารวม 7.74 หมื่นล้านบาท) iii) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (~8 หมื่นล้านบาท) และ iv) โครงการรถไฟทางคู่เฟสสอง (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ, บ้านไผ่-นครพนม, ขอนแก่น-หนองคาย) โดยโครงการที่เป็นเป้าหมายสำคัญของ CK ในปีหน้าคือรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก และโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง เราคาดว่าโครงการหลวงพระบางจะเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2566 หรือ ในปี 2567

ปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 6.9% จากโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

เราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี 2564 ลง 6.9% เนื่องจากเราปรับลดประมาณการรายได้ปี 2564 ลง 23.7% เพราะมีการเลื่อนส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินจาก 1Q64 เป็น 3Q64 ดังนั้น เราจึงใช้สมมติฐานว่าไม่มีการรับรู้รายได้จากโครงการนี้ในปี 2564

แนวโน้มในระยะสั้นเป็นลบ แต่ระยะกลางและยาวยังเป็นบวก

เราเชื่อว่าผลประกอบการจากธุรกิจหลักใน 4Q63 จะพลิกจากกำไรเป็นขาดทุน เนื่องจาก i) ขาดรายได้เงินปันผลจาก Thai Tap Water (TTW.BK/TTW TB)* ii) รายได้ equity income จาก CK Power (CKP.BK/CKP TB)* ลดลงเนื่องจากกระแสน้ำลดลง นอกจากนี้ backlog ที่ต่ำ ก็ทำให้เราคาดว่าธุรกิจก่อสร้างซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ CK จะยังคงซบเซาไปจนกว่าบริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ (รถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก หรือไม่ก็โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง)

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2564 ที่ 27.75 บาท เราเชื่อว่า backlog น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2563 และจะเพิ่มขึ้นในปี 2564 จาก i) โครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงตะวันตก ถ้าหากกลุ่มของ BEM ชนะประมูล ii) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง (คาดว่าจะสรุปสัญญาทั้งหมดได้ภายในปี 2564) และ iii) การเปิดประมูลงานโยธาของโครางการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ ทั้งนี้ เราคาดว่าบริษัทจะรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

Risks

การก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด, ขาดแคลนแรงงาน, และต้นทุนค่าวัสดุแพงขึ้น