EGCO - ซื้อ

EGCO - ซื้อ

เน้น value chain ใหม่ (LNG, Solar Solution ฯลฯ)

Event

ประชุมนักวิเคราะห์ และปรับลดราคาเป้าหมาย

lmpact

โครงการพลังงานลม Yunlin (640MW) ล่าช้าเพราะปัญหาในการติดตั้งกังหัน

โครงการนี้เป็นโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดยังคงล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากมีปัญหาในการติดตั้งกังหันในช่วงทำกระแสลมมีกำลังแรงมาก ส่งผลให้บริษัทตั้งเลื่อนกำหนด COD จากเดิม 3Q64 เป็น 4Q64 อย่างไรก็ตามบริษัทอาจจะเริ่ม COD บางส่วน (กังหัน 7-8 ตัว) ก็ได้ ซึ่งเรามองว่า
อาจจะทำให้ประมาณการกำไรหลักปี 2564 ของเรามี downside เล็กน้อย ในขณะเดียวกันโครงการอื่น ๆ อย่างเช่น เครือข่าย Thai pipeline และ NT1 ก็ล่าช้ากว่ากำหนด แต่ผู้บริหารยังมั่นใจ และคง SCOD ไว้ที่ 4Q64 และ 2Q65 ตามลำดับ

ยื่นขอใบนุญาต LNG shipper จาก กนพ.

EGCO ได้ยื่นขอใบอนุญาต LNG shipper จาก คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กนพ.) เพื่อนำเข้าในปริมาณปีละ 250kt โดย EGCO คาดว่าจะเริ่มนำเข้า LNG ได้ใน 4Q64 สำหรับ SPPs ที่มีอยู่แล้ว (BPU,KLU และ EGCO Cogen)

ปรับลดมูลค่าโครงการ Quang Tri 1 (17 บาท/หุ้น) ในการประเมินด้วยวิธี DCF เนื่องจากความกังวลด้านการเงิน

เราได้ตรวจสอบข้อมูลการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในอดีตของเวียดนาม ได้แก่โครงการ Vung Ang 2 (2x600MW) ในภาคกลางของประเทศเวียดนาม และพบว่าโครงการนี้ไม่สามารถปิดดีลด้านการเงินได้ เนื่องจากติดประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และนโยบายแบนโรงไฟฟ้าถ่านหิน (MUFG,SMBC,
Mizuho และ JBIC) ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าแหล่งเงินทุนที่เป็นไปได้มากที่สุดของโครงการ Quang Tri 1 (QT1) จะมาจากธนาคารไทย บวกกับวงเงิน supplier credit จากจีนด้วยการใช้เครื่องจักรจากประเทศจีน  อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรจากจีนไม่เสถียรเท่ากับเครื่องจักรจากญี่ปุ่น นอกจากนี้เรายังเป็นห่วงประเด็น ESG ของ EGCO ด้วย เพราะในปัจจุบัน กำไรจากการดำเนินงาน 30% มาจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งบลจ.ระดับโลกทุกวันนี้มีการกำหนดเกณฑ์ที่จะไม่เข้าลงทุนในบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้จากเหมืองถ่านหินและ/หรือโรงไฟฟ้าถ่านหินเกินกว่า 20-30% ของรายได้รวม ทั้งนี้ ถ้าหาก EGCO พัฒนา QT1 สำเร็จ
สัดส่วนรายได้จากโรงไฟฟ้าถ่านหินก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2564 ที่ 337 บาท เราเชื่อว่าบริษัทจะยังไม่มีการลงทุนใหม่เพิ่มในปีนี้ เนื่องจากปัญหาในการทำ due diligence ทางเทคนิค และการเจรจาต่อรองซึ่งเกิดจากการระบาดของ COVID-19 เรามองว่ายังมีธุรกิจใหม่ๆ อีก มาก อย่างเช่น นิคมอุตสาหกรรม LNG
และบริการ Solar solution ฯลฯ ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็อาจจะเป็นธุรกิจใหม่ที่สร้างการเติบโตให้บริษัท

Risks ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่