ระวังความผันผวนจากแรงทำกำไรสลับ และเข้าสู่การเก็งกำไรผลประกอบการ

ซึ่งมาตรการช่วยเหลือครัวเรือนและภาคเศรษฐกิจ ได้แก่ การเพิ่มวงเงินเช็คเงินสดเป็น 2,000 เหรียญฯ (จาก 600 เหรียญฯ), เพิ่มวงเงินช่วยเหลือคนตกงานเป็น 400 เหรียญฯ/สัปดาห์ โดยขยายไปจนถึงก.ย.64, ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 15 เหรียญฯ/ชั่วโมง (จาก 7.25 เหรียญฯ/ชั่วโมง), เงินช่วยเหลือรัฐต่างๆ รัฐบาลท้องถิ่น โรงเรียน, เงินสนับสนุนการตรวจหาและค่าวัคซีน

PTTOR กำหนดราคาเสนอขายที่ 16-18 บาท จำนวน 3,000 ล้านหุ้น (รวมกรีนชู 390 ล้านหุ้น) จัดสรรให้รายย่อย 595.70 ล้านหุ้น (จองผ่าน ธนาคารกสิกรไทย, กรุงเทพ, กรุงไทย), กองทุนในประเทศ 1,264.30 ล้านหุ้น และนักลงทุนต่างประเทศ 450 ล้านหุ้น และสำหรับผู้ถือหุ้นของ PTT จำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าระดมทุน 4.8-5.4 หมื่นล้านบาท จองซื้อ 24 ม.ค.-2 ก.พ., สรุปราคา 3 ก.พ. และคาดเข้าซื้อขาย 11 ก.พ. ซึ่งแม้ PER ย้อนหลังจะอยู่ที่ 23.9-26.9 เท่า แต่ Forward PER อยู่ที่ 16-18 เท่า แม้ใกล้เคียง PER ของธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน (15-19 เท่า) แต่ต่ำกว่าธุรกิจค้าปลีก (24-28 เท่า) ซึ่ง PTTOR มีการเติบโตในช่วงหลังมาจาพื้นที่เช่าและธุรกิจค้าปลีก รวมถึงร้านกาแฟ ทำให้เรามองหุ้นมีความน่าสนใจและน่าจะมีส่วนลดจากราคาเหมาะสม

ระยะสั้นพลังงานและกลุ่มโภคภัณฑ์ มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่ากลุ่มอิงเศรษฐกิจในประเทศ ที่จะได้รับผลกระทบจากการระบาดระลองใหม่ และกำลังซื้อที่ชะลอโดยเฉพาะแรงงานในภาคบริการและท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มพลังงาน (รวมหุ้นสาธารณูปโภคและไฟฟ้า) และโภคภัณฑ์ (ถั่วเหลือง, ปาล์ม, เดินเรือ ฯลฯ) ที่อิงราคาตลาดโลก และความต้องการจากภายนอก มีแนวโน้มที่จะรายงานผลการดำเนินงาน รวมถึงมีราคาหุ้นที่แข็งแกร่งกว่ากลุ่มอิงเศรษฐกิจในประเทศ โดยหุ้นใหญ่ เราชอบ PTTGC, PTT และ SCGP ขณะที่ในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ทางกลยุทธ์ชอบ AMA, PTG, TVO เป็นต้น ขณะที่ในกลุ่มพลังงานทดแทน เราชอบ EA, SUPER, ACE, ETC

อาจมีแรงทำกำไรหลังการประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตลาดหุ้นตอบรับปัจจัยบวกเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและข่าววัคซีนไปพอสมควรแล้ว ทำให้แรงส่งจากเรื่องดังกล่าวจะเริ่มซาลงและนักลงทุนคาดจะกลับมาโฟกัสที่ผลประกอบการเป็นรายตัวประเด็นเก็งกำไรที่น่าติตาม คือ การที่อ.ย.เชิญผู้ประกอบการเครื่องดื่มเข้าหารือเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาการใช้กัญชากัญชงในเครื่องดื่ม เมื่อ 21 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา อาจทำให้เห็นการพัฒนาสินค้าใหม่ๆออกมาในอนาคต

ภาพรวมกลยุทธ์ แบ่งทำกำไรในหุ้นที่ปรับขึ้นมากและชะลอการไล่ราคา ระยะสั้นระวังแรงทำกำไรลดความร้อนแรง แต่ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อ ภาพระยะกลาง-ยาว และกลยุทธ์เลือกรายตัว โดยเน้นซื้อในเชิงตั้งรับ // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร AMA*, ETC*. PTG*, TVO*

แนวรับ 1,520 จุด / แนวต้าน : 1,542 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

ไบเดนประกาศวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ $1.9 ล้านล้าน. นายโจ ไบเดน ว่าที่ปธน.สหรัฐ ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ American Rescue Plan วงเงิน $1.9 ล้านล้าน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจให้รับมือกับการแพร่ระบาดโควิด-19

Beige Book ชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลาง. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขต (Beige Book) ระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐมีมุมมองเป็นบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่

หอการค้าคาดส่งออกปี 64 ฟื้น 3.6%. มอหอการค้าไทย คาด การส่งออกไทยปี 64 พลิกกลับมาโต 3.6% yoy จากปี 63 ที่หดตัว 7%

ADVANC. ADVANC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าบริษัท DPC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้รับคำชี้ขาดให้ยกคำเสนอข้อพิพาทของบริษัท CAT เราเชื่อว่าเป็น Sentiment เชิงบวกต่อราคาหุ้นเล็กน้อยเนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด อีกทั้งยังบวกต่อผลการดำเนินงานที่คาดว่าเริ่มทยอยฟื้นตัว จาก 5G development ในประเทศไทยทั้ง consumer และ Industrial segments และคาด Dividend yield 3.9% ต่อปี

ประเด็นติดตาม: - 15 ม.ค. : US Industrial Production เดือน พ.ย. // 21 ม.ค. : ECB meeting // 27 ม.ค. – ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)