อ.ส.ค.ปรับแผน ดันยอดปี 64 ทะลุ 1.1 หมื่นล้าน

อ.ส.ค.ปรับแผน ดันยอดปี 64 ทะลุ 1.1 หมื่นล้าน

อ.ส.ค. ปรับแผนบริหาร ทำตลาดเชิงรุก หวังปี 64 ยอดทะลุเป้า 1.1 หมื่นล้านบาท หลังปี 63 โควิดทำยอดขายพลาดเป้า 9,500 ล้าน เล็งดันผลิตภัณฑ์นมเย็นขายในตลาดโมเดิร์นเทรด พร้อมเร่งติดตั้งเครื่องบรรจุนม UHT แบบไฮสปีด เพิ่ม2 โรงงาน

นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)  เปิดเผยว่า  ยอดจำหน่ายในปี 2563 ที่ผ่านมา อ.ส.ค.ทำยอดขายได้ 9,500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่กำหนดไว้ 10,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้การบริโภคลดลง ในช่วงต้นปี

 

อย่างไรก็ตามในปี 64 อ.ส.ค. ตั้งเป้ายอดขายที่ 11,000 ล้านบาท โดยจะปรับแผนการบริหารและแผนการตลาดเชิงรุกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ 3 ด้านให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ด้านอุตสาหกรรมนม ด้านส่งเสริมด้านการตลาดและด้านกิจการโคนม

  161166014879

โดยด้านอุตสาหกรรมนม ขณะนี้ได้เร่งเพิ่มศักยภาพการผลิตโดยติดตั้งเครื่องบรรจุนม UHT แบบไฮสปีด (High Speed) เพิ่มเติมจำนวน 2 เครื่องที่โรงงานนม อ.ส.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และโรงงานนม อ.ส.ค.ภาคใต้ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีกำลังการผลิต 24,000 กล่องต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าเครื่องบรรจุเดิม รวมทั้งได้เร่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องอย่างน้อยปีละไม่ 1-2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดธุรกิจตลาดนมพร้อมดื่มดั้งเดิมกับตลาดโมเดิร์นเทรด เป็น 50:50 ภายในปี 2564

หลังจากส่งผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มปราศจากไขมัน ยูเอชที กลิ่นเสาวรสผสมบุก ตราไทยเดนมาร์ค ชิวดี ออกสู่ตลาดเมื่อกลางปี 2563 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อ.ส.ค.ได้วางตำแหน่งการตลาดจำหน่ายเดิมไว้ที่Tops Supermarket และกำลังอยู่ระหว่างเจรจาขอจำหน่ายที่ 7-ELEVEN (เซเว่น-อีเลฟเว่น)เพิ่มอีก1ช่องทางตลาด

 

ส่วนด้านส่งเสริมด้านการตลาด จากการศึกษาพบว่าเทรนด์การบริโภคผลิตภัณฑ์นมภายในประเทศมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น ดังนั้นภายในปีนี้ อ.ส.ค. จึงมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น เช่น นมพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ต นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม หรือดริงค์กิ้งโยเกิร์ต และไอศกรีม เป็นต้นจำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดค้าขายปลีกแบบสมัยใหม่ (Modern Trade ) เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดที่มีแนวโน้มต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งถือเป็นไปในทิศทางเดียวกับเทรนด์การบริโภคของต่างประเทศที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์นมเย็นกันมาก โดยต้นปีใหม่ล่าสุดได้ส่งนมโยเกิร์ตพร้อมดื่มกลิ่นเลมอนและกลิ่นสตรอเบอร์รี่เข้าไปวางจำหน่ายใน 7- ELEVEN (เซเว่น-อีเลฟเว่น)ซึ่งก็ได้ผลตอบรับในทางที่ดี

อย่างไรก็ตาม อ.ส.ค. ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการขายผ่านระบบการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ผ่านลาซาด้า (LAZADA) และช้อปปี้ (Shopee) เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคยุคปัจจุบันให้ครอบคลุมเป้าหมายมากทุกกลุ่ม เพื่อขยายช่องทางตลาดและเพิ่มรายได้ให้กับอุตสาหกรรมนมของอ.ส.ค. ให้มากที่สุด

 

 ส่วนด้านกิจการโคนมได้นำกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามมาตรควบคุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำอย่างเข้มงวด รวมทั้งได้บูรณการความร่วมมือกับบริษัท เบทาโกร จำกัดและบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ด้านส่งเสริมการเลี้ยงโคนมโดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนาฟาร์มโคนมของสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น