หุ้นร่วง 17.10 จุด โบรกฯ เตือน 'ขายทำกำไร' มูลค่าตลาดตึงตัว
ตลาดหุ้นไทยภาคเช้ารูดหนัก 17.10 จุด "บล.กสิกรไทย" ชี้ปัจจัยลบ มูลค่าหุ้นในตลาดเริ่มตึงตัว-กังวลแผนกระจายวัคซีนในประเทศ คาดเห็นแรงขายลดพอร์ตอีก หากดัชนีเข้าใกล้ 1,600 จุด เตือนงบไตรมาสแรกยังไม่ฟื้น แนะนำ "ขายทำกำไร"
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 5 เม.ย.2564 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,579.17 จุด ปรับตัวลง 17.10 จุด หรือปรับลง 1.07% และมีมูลค่าการซื้อขาย 52,161.03 จุด โดยปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,601.24 จุด ในช่วงเปิดตลาด ก่อนจะปรับตัวลงมาต่อเนื่อง และทำจุดต่ำสุดที่ 1,575.56 จุด
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การปรับฐานของ SET Index ช่วงเช้าวันนี้คาดว่ามาจากมูลค่า (Valuation) ที่เริ่มตึงตัว โดยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 10% และปรับขึ้นทะลุแนวต้าน 1,600 จุดเป็นที่เรียบร้อย
สอดคล้องกับทิศทางสินทรัพย์ลงทุนอื่นๆ ทั่วโลกที่ปรับขึ้นเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ตั้งแต่ในช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) น้ำมันดิบ ทองคำ และตลาดหุ้นต่างประเทศ ฯลฯ
ขณะที่แนวโน้ม SET Index เดือน เม.ย. ประเมินแนวต้านที่ 1,630 จุด และแนวรับที่ 1,535 จุด ส่งผลให้หุ้นไทยเผชิญแรงขายลดพอร์ตเมื่อดัชนีเข้าใกล้บริเวณ 1,600 จุด โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นจากการเก็งกำไรปัจจัยบวก (Sentiment Play) และคาดว่าจะมีเพียงกลุ่มปิโตรเคมีและกลุ่มธนาคารเท่านั้นที่ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2564 จะเห็นการฟื้นตัวชัดเจน
"กลยุทธ์การลงทุน เราจึงแนะนำนักลงทุนขายทำกำไรก่อนการประกาศงบไตรมาสแรก เพราะหุ้นที่ขึ้นมาในช่วงต้นปีเป็นการปรับขึ้นรับบรรยากาศ (sentiment) บวกเท่านั้น แต่กำไรยังตามมาไม่ทัน โดยแนวรับรายเดือนให้ไว้ที่ 1,535 จุด แต่ระยะสั้นสำหรับนักเก็งกำไรแนะนำให้ขายหากหลุด 1,585 จุด" นายสรพล กล่าว
นายสรพล กล่าวว่า นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังรับรู้ปัจจัยลบเรื่องการกระจายวัคซีนที่จำนวนโดสฉีดยังค่อนข้างน้อย หรือไม่ถึง 0.5% ของประชากร ขณะที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วมีอัตราการฉีดสูงกว่า 10% ส่งผลให้ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงการแพร่ระบาดระลอกใหม่รุนแรงกว่าต่างประเทศ