โนเบิลผนึกพันธมิตร‘ฟัลครัม’ลุยลงทุนอสังหาฯในUK
ตั้งบริษัทย่อย “โนเบิล เวนเจอร์ อินเวสเมนท์” ปูพรมขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ จ่อปิดดีลซื้อสินทรัพย์แห่งแรกในเมือง “Manchester” ในอีกไม่กี่วันนี้ พร้อมตั้งงบลงทุน 2,500 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ดําเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท โนเบิล เวนเจอร์ อินเวสเมนท์ จํากัด (Noble Venture Investment Ltd.) ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน โดยบริษัทย่อยดังกล่าวจัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าลงทุนในต่างประเทศและการขยายธุรกิจ
โดยโครงการในต่างประเทศแห่งแรกจะลงทุนในสหราชอาณาจักร โดยโนเบิลลงทุนในสัดส่วน 45% ร่วมกับพันธมิตรกลุ่ม บริษัท ฟัลครัม-โกลบอล แคปิตอล อินเวสเมนท์ (Fulcrum Global Investments) หรือ Fulcrum ในสัดส่วน 55% ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นกับ ฟัลครัม ซึ่งมีนายแฟรงค์ เหลียง เป็นเจ้าของ โดยนายแฟรงค์ยังถือหุ้นใน NOBLE สัดส่วนประมาณ 20% อีกด้วย
เป้าหมายของการลงทุนในสหราชอาณาจักรจะเป็นรูปแบบโครงการที่ได้รับอนุญาตในการพัฒนาโครงการในเมืองใหญ่ๆ ที่ถูกสร้างและมีผู้เช่าแล้ว เนื่องจากปัญหากำลังซื้อที่อยู่อาศัยในสหราชอาณาจักร ทางรัฐบาลได้มีการสนับสนุนในการปรับปรุงโครงการประเภทอาคารสำนักงาน หรืออาคารเชิงพาณิชย์ เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน
ดังนั้นทาง โนเบิล และ ฟัลครัม จึงได้เห็นโอกาสดังกล่าวและได้มีการระบุการเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการปรับปรุงดังกล่าว โดยมีการขายผ่านเครือข่ายกลุ่มลูกค้าที่แข็งแกร่งของบริษัทฯในแถบเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน เราเชื่อว่าพื้นฐานความต้องการสำหรับนักลงทุนชาวจีนและฮ่องกงในการกระจายการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ออกนอกประเทศบ้านเกิดนั้นมีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าการลงทุนไม่สูงมาก และให้ผลตอบแทนสูง
“การต่อยอดด้านการลงทุนของโนเบิลในสหราชอาณาจักร ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงนโยบายกระจายความเสี่ยงด้วยการเพิ่มความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ โดยเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ร่วมกับ ฟัลครัม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ด้วยความเชี่ยวชาญของฟัลครัมในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดน จะเป็นการตอกย้ำความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยเราจะเน้นการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อขยายธุรกิจนอกประเทศไทย และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ” นายธงชัย กล่าว
โนเบิล ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีจากนี้ว่าจะมีกำไรจากการลงทุนในต่างประเทศในสัดส่วนที่ 25% ของกำไรสุทธิรวม ซึ่งในปีแรกคาดจะใช้งบลงทุน 25 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท (โนเบิล จะลงทุนประมาณ 450 ล้านบาทตามสัดส่วน) และเพิ่มการลงทุนภายในปี 2567 เป็นจำนวน 60 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจราเข้าซื้อโครงการแรกในเมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester) คาดมีความชัดเจนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สำหรับผลตอบแทนจากการลงทุนนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยรายได้จากการปล่อยเช่าและรายได้จากการทยอยขายสินทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯมีนโยบายการถือครองสินทรัพย์ในแต่ละสินทรัพย์ประมาณ 2-3 ปี โดยคาดจะมีอัตราผลประโยชน์ที่มีต่อผู้ถือหุ้น (EIRR: Equity Internal Rate of Return) ที่ประมาณ 18-20%