เอสซีจี โฮม ติดอาวุธวิสาหกิจชุมชนฝ่าโควิด
เอสซีจี โฮม จับมือกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร จัดติวเข้มออนไลน์ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ ประเดิมหัวข้อแรก "ติดอาวุธพัฒนาสินค้า บริการ ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล" ยกระดับความเป็นมืออาชีพ
นายบรรณ เกษมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ดูแลธุรกิจ เอสซีจี โฮม รีเทล & ดิสทริบิวชั่น บิสสิเนส ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดเผยว่า เอสซีจี โฮม มุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้จับมือร่วมกับกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร พัฒนาความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ ภายใต้โครงการ "ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็ก ก้าวผ่านวิกฤตโควิด" เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับสินค้าและบริการของวิสาหกิจชุมชน ให้สามารถเข้าถึงช่องทางออนไลน์ เพิ่มช่องทางการขายไปสู่ลูกค้าในวงกว้างขึ้น อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น และยกระดับวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาสินค้าและบริการ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งมีส่วนในการสร้างงาน รองรับแรงงานที่ตกงานจากวิกฤตโควิด-19 ที่กลับสู่ท้องถิ่นอีกด้วย
ประเดิมหัวข้อแรก "ติดอาวุธพัฒนาสินค้า บริการ ตอบโจทย์ลูกค้ายุคดิจิทัล" โดยมี นราธิป อ่ำเที่ยงตรง ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายและการตลาด และที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำในภูมิภาค และระดับประเทศ ทั้งมีประสบการณ์ด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการท่องเที่ยวชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง มาเป็นวิทยากร และมีวิสาหกิจชุมชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมฟังสัมมนากว่า 200 ราย
"การสัมมนาออนไลน์ที่เกิดขึ้น จะช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีปัญหาการเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ โดยเฉพาะโอกาสทางออนไลน์ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาตนเองให้เข้มแข็ง นับเป็นก้าวแรกในการช่วยยกระดับวิสาหกิจชุมชนสู่ความเป็นมืออาชีพ และนอกจากการส่งเสริมด้านความรู้แล้ว เรายังมีแนวทางความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาช่องทางการขายใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนด้วย" นายบรรณ กล่าว
ด้าน นางวชิรา ไฝเจริญมงคล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนจัดตั้งมีจำนวนกว่า 94,000 รายทั่วประเทศ และอยู่ในความดูแลของกรมฯ มากกว่า 30,000 ราย ที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดงานแสดงสินค้าเพื่อสนับสนุนผลิตภัณฑ์และเพิ่มช่องทางการตลาด แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้การรวมกลุ่มไม่สามารถทำได้ โครงการ "ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็ก ก้าวผ่านวิกฤตโควิด" ที่จัดขึ้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ได้มีโอกาสในการเสริมสร้างความเข้มแข็ง อยู่รอดได้ในทุกๆ วิกฤต
นายบรรณ ระบุว่า การระบาดของโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้บริโภครวดเร็วขึ้น โดยช่วงที่ผ่านมา จะเห็นการใช้เทคโนโลยีในการติดต่อสื่อสารในชีวิตประจำวัน และการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การที่คนอยู่บ้านมากขึ้น ทำงานที่บ้านหรือทำงานที่ไหนก็ได้ ผลักดันให้ธุรกิจเดลิเวอรี่เติบโต ค่านิยมการทำอาหารทานเองที่บ้านกลับมาเติบโตอีกครั้ง ผู้บริโภคสนใจหาความรู้ด้วยตัวเองและสั่งซื้อวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพเองโดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะเดียวกันเกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ด้านเศรษฐกิจและสังคมผู้สูงอายุ เทรนด์สังคมคนอายุยืน เทรนด์คนรักสุขภาพและความยั่งยืน ตลอดจนเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การไม่ทำร้ายโลก เหล่านี้ ทำให้ความต้องการบริโภคสินค้าและบริการที่ดี มีมาตรฐานและมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น
"ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว เชื่อว่าจะเป็นโอกาสภายใต้วิกฤต ที่วิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศจะพัฒนาสินค้าและบริการของตนให้สามารถตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการนั้น ๆ ได้อย่างเป็นมืออาชีพ ขณะเดียวกัน สามารถใช้เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัวให้เป็นประโยชน์ เข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้สำเร็จ ส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตในที่สุด" นายบรรณกล่าว