SCB - ซื้อ (23 ก.ค.64)
คงเป้าสำรองหนี้ช่วยลดความกังวลตลาด
เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21-23 ขึ้น 8-11% จากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ที่ดีกว่าคาดและการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายจากแพลตฟอร์มดิจิตัล เราคงคำแนะนำ ซื้อ SCB ที่ราคาเป้าหมายใหม่สำหรับกลางปี 2022 ที่ 132บาท อ้างอิง PBV 1x
ตั้งสำรองทรงตัวสวนกระแสความเชื่อในตลาด
เรามอง SCB มีปัจจัยบวกในหลายแง่ในช่วง 2Q21 ประเด็นแรก ไม่เพียงแต่การตั้งสำรองในไตรมาสนี้จะทรงตัว qoq ที่ 1.0หมื่นลบ. ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื่อที่สูงและเพิ่มขึ้นกอปรกับมาตรการควบคุมที่เข้มข้นจากรัฐบาล SCB ยังรายงานสัดส่วน NPL ทรงตัวและสินเชื่อในมาตรการความช่วยเหลือกลับปรับตัวลดลงจาก 4.29แสนลบ. เป็น 3.76แสนลบ. หรือลดลงจาก 19% เป็น 16% ของพอร์ต สวนทางกับความเชื่อของตลาดที่มองว่าการระบาดของ Covid-19 รอบใหม่และมาตรการควบคุมของรัฐบาลจะสร้างผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวงกว้างและกระทบคุณภาพของสินทรัพย์ซึ่งทำให้ธนาคาต้องตั้งสำรองสูงขึ้น
ผู้บริหารคงเป้าสำรองหนี้มองเป็นบวกลดความกังวลตลาด
อย่างไรก็ดีนักลงทุนบางส่วนยังเชื่อว่าการตั้งสำรองหากไม่เพิ่มใน 1H21 อาจเพิ่มขึ้นใน 2H21 จากสถานการณ์ Covid-19 แย่ลง แต่วานนี้ในการประชุมฝ่ายบริหารออกมาคงทุกเป้าหมายทางการเงิน โดยเฉพาะในส่วนของต้นทุนความเสี่ยงเครดิต(credit cost) ใน 2H21 มีแนวโน้มจะทรงตัวที่ราว 175bps เท่ากับ 1H21 นอกจากคุณภาพสินทรัพย์และการตั้งสำรอง SCB ยังสร้างการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) เพิ่ม 12% ในช่วง 1H21 หนุนจาก FVTPL ดีกว่าที่เราประเมินว่าจะทรงตัวในปีนี้ อีกทั้งสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ (C/I ratio) อยู่ในระดับต่ำที่ 41% ในไตรมาสที่ผ่านมา ดีกว่าคาดการณ์ของเราทั้งปีที่ 45%
ปรับคาดการณ์กำไรขึ้นจากรายได้ non-NII และการประหยัดต้นทุน
จากปัจจัยบวกเหล่านี้เราจึงปรับคาดการณ์กำไรปี FY21-23 ขึ้น 8-11% หลักๆจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น 7% และการประหยัดต้นทุนที่ดีขึ้นจากสัดส่วน C/I จาก 45% เป็น 42% เราคงคำแนะนำ ซื้อ SCB ที่ราคาเป้าหมายใหม่สำหรับกลางปี 2022 ที่ 132 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้นอาจถูกกดดดันระยะสั้นจากความกังวลสถานการณ์ Covid-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับส่วนลดมาก แม้ในกรณี credit cost ที่แย่ที่สุดที่ 200bps