XPG โดดเข้าซื้อลงทุน "สิริฮับ" ซีรีย์ A 250 ล้านบาท ระบุเพื่อลงทุน
XPG รายงานเข้าลงทุนในโทเคน "สิริฮับ" 250 ล้านบาท จำนวน 25 ล้านโทเคน ในหน่วย สิริฮับ A มีวัตถุประสงค์ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนและเป็นไปตามกรอบงบประมาณและนโยบายการลงทุนของบริษัท
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG รายงานได้มาสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ A ที่มีบริษัท เอสพีวี 77 จำกัด เป็นผู้ออกโทเคนดิจิทัล และมี บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล บริษัทได้เข้าลงทุนในโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริ ฮับ A เป็น จำนวน 25,000,000 โทเคน ในราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหนึ่งโทเคน รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 250 ล้านบาท
โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน ซึ่งการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว เป็นไปตามกรอบ งบประมาณและนโยบายการลงทุนที่กำหนดโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2564 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ซึ่งมอบอำนาจให้คณะกรรมการการลงทุน (Investment Committee) เป็นผู้พิจารณาอนุมัติและตัดสินใจในเรื่องนี้
ทั้งนี้ การลงทุนในโทเคนดิจิทัลสิริฮับ A นั้น มีสิทธิได้รับผลตอบแทนดังต่อไปนี้ (1) ส่วนแบ่งรายได้รายไตรมาส ในอัตราส่วนแบ่งรายได้ต่อมูลค่าการเสนอขายโทเคนดิจิทัลสิริฮับ A ไม่เกินร้อยละ 4.50 ต่อปี (2) ส่วนแบ่งรายได้จากการจำหน่ายอาคารสิริแคมปัสเป็นจ านวนเงินไม่เกิน 1,600 ล้านบาทแรก (ตามมูลค่า โทเคนดิจิทัล สิริฮับ A ที่ออกทั้งหมด) โดยผู้ถือโทเคนดิจิทัล สิริฮับ A จะได้รับเงินคืนจนครบถ้วนก่อนผู้ถือโทเคนดิจิทัล สิริฮับ B
โดยโทเคน ดิจิทัลดังกล่าวนั้นอ้างอิงกระแสรายรับจากกลุ่มอาคารสำนักงาน สิริ แคมปัส ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์อ้างอิงในการระดมทุนนี้ โดยโทเคนดิจิทัลดังกล่าวจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในบริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ทั้งนี้ ธุรกรรมการเข้าลงทุนในโทเคนดิจิทัลสิริฮับ A มีขนาดรายการของธุรกรรม เมื่อคำนวณตามเกณฑ์มูลค่ารวมของ สิ่งตอบแทน ซึ่งเป็นเกณฑ์สูงสุดเท่ากับร้อยละ 3.02 โดยอ้างอิงจากงบการเงินรวมฉบับล่าสุดของบริษัทสำหรับรอบ ระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 25641 และเมื่อคำนวณรวมขนาดรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทที่ เกิดขึ้นทั้งหมดในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทจะมีขนาดรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น เท่ากับร้อยละ 9.03 ซึ่งไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551