Property Sector ได้เวลาของกลุ่มอสังหาฯแล้ว
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อจดจำนองลงชั่วคราว (Figure 1)
เพื่อสนับสนุนผู้ซื้อบ้านหลังแรกและหลังที่สอง รวมถึงกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ COVID-19 ระบาดอยู่นี้ โดยการผ่อนคลายเกณฑ์ดังกล่าวมีผลทันที และจะมีผลต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2565 โดยประเด็นสำคัญที่มีการปรับได้แก่
i) อสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท: ผู้ซื้อบ้านหลังแรกยังคงสามารถยื่นขอสินเชื่อจดจำนองได้ถึง 100% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ผู้ซื้อบ้านหลังที่สองหลังที่สองเป็นต้นไปสามารถยื่นขอสินเชื่อจดจำนองได้ถึง 100% (จากเดิมที่ 70% ถึง 90%)
ii) อสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาท: ผู้ซื้อบ้านสามารถยื่นของสินเชื่อจดจำนองได้ 100% ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ (จากเดิมที่ 70% ถึง 90%)
คาดอานิสงส์เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนตลอดปี 2565F ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มผ่อนคลายความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เราจึงมีมุมมองเชิงบวกต่อการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ซึ่งมาได้จังหวะพอดีที่จะช่วยสนับสนุนกำลังซื้อของผู้ซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ซื้อเพื่อลงทุน
ปรับเพิ่มนํ้าหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็น Overweight
เราปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็น Overweight (จาก Neutral) เนื่องจากเราคาดช่วงที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว ซึ่งหลังจากที่หุ้นกลุ่มนี้ต้องเผชิญอุปสรรคหลายประการใน 3Q64 (เช่นการเลื่อนเปิดโครงการใหม่, และการปิดแคมป์ก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2564) โดยเราคาดว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ 4Q64F เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยสร้างสภาวะเชิงบวกให้กับราคาหุ้นในกลุ่ม
Valuation & action
เราแนะนำให้นักลงทุนระยะยาวซื้อสะสมหุ้นอสังหาริมทรัพย์เพื่อเกาะกระแสบวก และปัจจัยพื้นฐานที่มีแนวโน้มจะtฟื้นตัวดีขึ้นไปจนถึงปี 2565F เราชอบหุ้นที่ยังมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง, มียอดขายโครงการประเภทอาคารสูงโดยไม่มีประเด็นเรื่องสินค้าล้าสมัย, รายได้และ backlog มีแนวโน้มแข็งแกร่งชัดเจนในปี 2564-65F หุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ได้แก่ Origin Property (ORI.BK/ORI TB)* (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท), Supalai (SPALI.BK/PSALI TB)* (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท), AP (Thailand) (AP.BK/AP TB)* (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท) และ Pruksa Holding (PSH.BK/PSH TB) (แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท)
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง, COVID-19 ระบาดนานเกินคาด