‘อนันดา’ชูโมเดลกลายพันธุ์ รับมือความท้าทายปี 65

ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประสบการณ์วิกฤติโควิดในช่วง 2 ปี หากโฟกัสเฉพาะอสังหาฯ เพื่อขายอย่างเดี่ยวก็จะเจ็บตัว!  ฉะนั้นจึงต้องมองหาหลายสินค้าที่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ที่ตอบรับกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ด้วยการนำเรื่องการบริการมาประยุกต์กับธุรกิจอสังหาฯ 

เพื่อมีพอร์ตโฟลิโอที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) มากขึ้น ลดการพึ่งพารายได้จากอสังหาฯ เพื่อขายอย่างเดียว แต่เพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโต

“ไม่เฉพาะแค่เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโดมิเนียม อาจเป็นบ้านจัดสรร มีบริการเฮล์ทแอนด์เวลเนสเข้ามา เพราะผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรูปแบบซับสคริปชั่นเซอร์วิส (Subscription service ) ซึ่งเราพยายามนำมาประยุกต์อสังหาฯ กลายพันธุ์ เพื่อความอยู่รอด การทำโมเดลธุรกิจคล้ายกับรีท หรือกองทุน"

รวมทั้งการปรับโมเดลธุรกิจในแต่ละเซ็กเมนต์ผสมผสานกับเซอร์วิส อาทิ โควิฟวิ่งที่ตอบโจทย์ดิจิโนแมด หรือกลุ่มนิสิตย่านจุฬาฯ หรือทำหมู่บ้านสำหรับผู้สูงอายุ รองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

ที่ผ่านมาอนันดาพยายามหาโลเคชั่นที่ดีที่สุด “เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์” ก็เช่นเดียวกัน เหมือนคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าที่อนันดาเป็นเบอร์หนึ่งในตลาด 

"ธุรกิจคอนโดมิเนียมเป็นเหมือนฮาร์ดแวร์ อนาคตอสังหาฯ ขายฮาร์ดแวร์อย่างเดียวไม่ได้ หมดยุคแล้ว!! ปัจจุบันเป็นยุคของซอฟท์แวร์ และบริการ"

ดังนั้นแนวทางการทำงานเลือกพันธมิตรรายใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งบริการเข้ามาร่วม หนึ่งในนั้น แอสคอทท์ กรุ๊ป อสังหาฯ ในเครือแคปปิตอล แลนด์ ประเทศสิงคโปร์ ที่รัฐบาลสิงคโปร์ถือหุ้นมีแบรนด์ “แอสคอทท์” เป็นแฟลกชิพแบรนด์ รวมทั้ง ซัมเมอร์เซ็ท และ ไลฟ์ (lyf) ที่จับกลุ่มดิจิทัลโนแมด นิยมเลือกที่พักอาศัยชั่วคราวแบบเช่าประเภทโคลิฟวิ่งสเปซ ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่

“ความร่วมมือดังกล่าวได้เรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าใหม่ๆ จากเดิมที่ทำธุรกิจเหมือนกับการขายฮาร์ดแวร์มานาน ได้เรียนรู้การอินทิเกรเต็ดฮาร์ดแวร์กับซอฟท์แวร์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า "

เช่นเดียวกับโคโค่ พาร์ค (COCO PARC) โครงการคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ ที่จับมือครั้งแรกระหว่าง ANANDA x DUSIT ที่จะเปิดตัวปี 2565 โดยร่วมกับ ทีมดุสิตธานีนำมาตรฐานบริการของโรงแรม 5 ดาวเข้าไปสู่บริการในคอนโดแบบออนดีมานด์

 

การจับมือกับ แอสคอทท์ เบอร์หนึ่งของโลกด้านเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ที่มีระบบ CRM ให้บริการฐานลูกค้า 1.2 แสนยูนิต ที่บริหารอยู่ใน 200 เมือง 30 ประเทศทั่วโลก มีแพลตฟอร์บิสสิเนสเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งต้องอาศัยอำนาจการต่อรองสูง เพราะมีวอลุ่มลูกค้า และ Economies of Scale

ด้วยการเปิดตัวเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 5 โครงการ รวม 1,809 ยูนิต มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรกลุ่มมิตซุย ฟูโดซัง ได้แก่ ซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 แอสคอทท์ แอมบาสซี่ สาทร แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และ ซัมเมอร์เซ็ต พัทยา เพื่อสร้างรายได้ประจำ และรองรับดีมานด์ชาวต่างชาติที่จะกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย (Expat) นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว โดยแต่ละโลเคชั่นจะมีกลุ่มลูกค้าของตนเอง

"เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เป็นตลาดที่น่าสนใจ ปี 2564 อัตราเข้าพักสูง 55% เพราะลูกค้าเข้าพักระยะยาว (Long-Stay) เทียบกับโรงแรมมีอัตราการเข้าพัก 20% ทั้งสนองตอบไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของ เป็นเทรนด์ที่เกิดจากเจนเนอเรชั่นที่เปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อยๆ แค่ต้องการสิทธิในการใช้แต่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของในรูปแบบซับสคริปชั่นเซอร์วิส และแนวโน้ม อสังหาฯโดยเฉพาะคอนโดจะมูฟมาเป็นฟาส โมเดล(FAST Model)มากขึ้น เพื่อให้ทันกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป"

ชานนท์ มองว่า จากพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ไม่อยากเป็นเจ้าของเพิ่มขึ้นส่งผลให้ธุรกิจบริการเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ยกตัวอย่าง เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์แบรนด์ ไลฟ์ ที่ตอบโจทย์กลุ่ม ดิจิทัลโนแมด ที่ต้องการโคลิฟวิ่ง ทำให้อนันดาต้องพัฒนาสินค้าและบริการใหม่มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ที่ไม่ได้มาจากอสังหาฯ เพื่อขายอย่างเดียว โดยขยายพอร์ตโฟลิโอไปในธุรกิจใหม่ เริ่มจากการหารายได้เพิ่มจากเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ร่วมกับ แอสคอทท์ ตั้งเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้ 20% จากรายได้ประจำ ใน 5 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เติบโตสูงเนื่องจากดีมานด์เพิ่มขึ้นแต่ซัพพลายมีไม่มาก ขณะเดียวกันเน้นลดต้นทุนการดำเนินการด้วยการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ไม่มีบริการอาหาร 24 ชั่วโมง ทำให้ลดราคาค่าบริการให้ลูกค้าได้ เพราะลูกค้าเป็นกลุ่มที่เข้าพักระยะยาว ไม่จำเป็นต้องการบริการแบบ Branded Residence ในอนาคตมีแผนที่แตกไลน์ธุรกิจใหม่ร่วมกับ แอสคอทท์