1 เม.ย.65 ขึ้นไตรมาสใหม่ สินค้าอะไรปรับราคาขึ้นบ้าง?

ปี 2565 ผ่านพ้นไปแล้ว 1 ไตรมาส เข้าสู่ไตรมาสที่ 2 (เม.ย. - มิ.ย.) มีเรื่องที่เป็นที่กังวัลสำหรับประชาชน รวมทั้งกระทบกับการบริหารงานเศรษฐกิจของรัฐบาลคือเรื่องของราคาสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้นจากผลกระทบจากสงครามระหว่างยูเครน กับ รัสเซีย การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียที่ส่งผลต่อราคาพลังงานในตลาดโลก นอกจากส่งผลต่อราคาน้ำมันและก๊าซยังส่งผลกระทบมายังต้นทุนราคาสินค้าหลายประเภทในไทย 

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีการปรับขึ้นราคาสินค้าในบางรายการตั้งแต่วันแรกของไตรมาสที่ 2 ขณะที่อีกหลายสินค้าจ่อที่จะขยับขึ้นราคา ที่สามารถรวบรวมได้ในขณะนี้ มีดังนี้ 

1.ปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม เป็น 333 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม (ก.ก.) โดยการปรับเพิ่มขึ้นเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอเพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ได้ดูแลประชาชนโดยการตรึงราคาก๊าซ LPG ไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม และจะทยอยขึ้นราคาเดือนละ 15 บาทต่อถัง15 ก.ก.ต่อไปอีก 3 เดือน

อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีมาตรการในเยียวยาคือ ช่วยบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซ LPG โครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่าน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" อีก 55 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และให้กรมธุรกิจพลังงาน ขอความร่วมมือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ ปตท. ดำเนินการอยู่ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565

 

2.เครื่องปรุงรส รายงานจากสมาคมค้าส่ง - ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่าผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค จะทยอยปรับราคาขึ้นต่อเนื่อง ทั้งปรับขึ้นราคาขายส่งของผู้ผลิตกับร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายปลีกโดยสินค้าปรุงรส และซีอิ๋วขาวจะขอเพิ่มราคาจำหน่าย 10% ต่อขวด (ขนาดบรรจุ 75 มล.)

3.ผงซักฟอก (บางยี่ห้อ)ขอปรับขึ้นประมาณ 10% ต่อถุง (ขนาด 1,000 กรัม) 

4.เครื่องดื่มชูกำลัง ในช่องทางของร้านค้ายี่ปั๊ว-ซาปั๊ว โดยจะมีการปรับขึ้นราคา 10 บาทต่อลัง 

วัดใจกระทรวงพาณิชย์ปล่อยขึ้นราคาหรือไม่ 

รายงานข่าวจาก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่าขณะนี้ทางผู้ประกอบการได้มีการทะยอยยื่นของปรับราคาสินค้าต่อกรมการค้าภายในแล้ว อยู่ในระหว่างการพิจารณา 

โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้เน้นย้ำนโยบายการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน ที่ต้องให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและผู้บริโภค

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มีการกำหนดสินค้า 18 กลุ่มที่สั่งตรึงราคาไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา ประกอบด้วย

1.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

2.หมวดอาหารสด

3.อาหารกระป๋อง

4.ข้าวสารถุง

5.ซอสปรุงรส

6.น้ำมันพืช

7.น้ำอัดลม

8.นมและผลิตภัณฑ์จากนม

9.เครื่องใช้ไฟฟ้า

10.ผลิตภัณฑ์ซักล้าง

11.ปุ๋ย

12.ยาฆ่าแมลง

13.อาหารสัตว์

14.เหล็ก

15.ปูนซีเมนต์

16.กระดาษ

17.ยาเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์

18.บริการผ่านห้าง ค้าปลีก-ส่ง

 

พาณิชย์ยันต้นทุนน้ำมันกระทบสินค้าไม่มาก 

ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน ได้ทำการวิเคราะห์ต้นทุนน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 30 บาทต่อลิตร และพบว่า มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าไม่มาก

จึงไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ผลิตจะใช้ในการปรับขึ้นราคา และได้ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าไปก่อนโดยผลการวิเคราะห์ เช่น สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 1.45% ของใช้ประจำวัน เพิ่ม 1.1% วัสดุก่อสร้าง เพิ่ม 1.2% กระดาษและผลิตภัณฑ์ เพิ่ม 5% ปัจจัยการเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช เพิ่ม 0.5% เป็นต้น