ททท. จ่อออก “โปรไฟไหม้” โค้งท้ายปี ลดต้นทุนเดินทาง สกัด “ไทยเที่ยวนอก”

ททท. จ่อออก “โปรไฟไหม้” โค้งท้ายปี ลดต้นทุนเดินทาง สกัด “ไทยเที่ยวนอก”

“ททท.” จ่อออก “โปรไฟไหม้” ผลักดันโครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ช่วยลดต้นทุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวไทย ฝ่ามรสุมปัญหาเศรษฐกิจและสถานการณ์น้ำท่วมหนักฉุดกำลังซื้อ พร้อมสกัดตลาด “ไทยเที่ยวนอก”

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. ทาง ททท.เตรียมผลักดันโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศออกมาเพิ่มเติม ในลักษณะเหมือนโปรไฟไหม้ เพื่อช่วยลดต้นทุนการท่องเที่ยวของคนไทยในภาวะเศรษฐกิจไทยกำลังประสบปัญหา ทั้งสถานการณ์น้ำท่วมหนักยังซ้ำเติมบรรยากาศการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวไทยที่มีกำลังซื้อบางส่วนเตรียมออกไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 นี้ หลังจากประเทศและเมืองต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียที่เป็นจุดหมายยอดนิยมของคนไทย เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกง เพิ่งประกาศเปิดประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนตั้งแต่ไตรมาส 4 นี้เป็นต้นไป ประกอบกับภายหลังวันที่ 31 ต.ค.2565 มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ อาทิ คนละครึ่ง และเราเที่ยวด้วยกัน กำลังจะสิ้นสุดลงด้วย

“ททท.เตรียมผลักดันโครงการหรือโปรโมชั่นที่มีลักษณะเหมือนโปรไฟไหม้ ยึดหลักการเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวไทยให้ออกเดินทางเที่ยวในประเทศช่วงฤดูหนาว ทั้งยังเป็นการสกัดกลุ่มคนไทยที่พอจะมีเงิน โหยหาการเดินทางไปต่างประเทศ พร้อมเดินทางและใช้จ่าย จึงต้องออกโปรโมชันน่าสนใจตรึงคนไทยกลุ่มนี้ไว้ให้เที่ยวเมืองไทย”

ททท.ยังยืนยันเป้าหมายการทำงานปี 2565 สร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวที่ 1.5 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 8 แสนล้านบาท และรายได้จากนักท่องเที่ยวคนไทย 6.56 แสนล้านบาท โดยหลังจากผ่านช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้วกว่า 6 ล้านคน ใช้จ่ายเฉลี่ย 5.5 หมื่นบาทต่อคน จึงคาดการณ์ว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 10 ล้านคน สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 5.5 แสนล้านบาท

“ถือว่าเราทำการตลาดอย่างเต็มที่แล้วสำหรับการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย มั่นใจว่าได้จำนวนตามเป้าหมายปีนี้ที่ 10 ล้านคน แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือรายได้ตลาดไทยเที่ยวไทย เพราะยอดการใช้จ่ายน้อยลง จึงต้องเร่งกระตุ้นความถี่การเดินทาง ในภาวะที่ต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจและสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้” ผู้ว่าการ ททท. กล่าว