บทสรุป 'ไทยเฟ็กซ์67'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

บทสรุป 'ไทยเฟ็กซ์67'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

เปิดบทสรุป 'ไทยเฟ็กซ์' ปี 67 รายใหญ่ร่วมงาน โชว์นวัตกรรม สินค้าอาหารเพื่อสุขภาพยังครองตลาด พร้อมเจาะสเต๊ปต่อไป วางหมากดันแบรนด์ไทยยึดตลาดอาหารโลก ขยายส่งออก-แฟรนไชส์

อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นแรงหนุนหลักต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย จากการที่ประเทศไทยส่งออกอุตสาหกรรมอาหารในปีนี้ประเมินว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.6 ล้านล้านบาท และผลสะท้อนจากการจัดงานมหกรรมการแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก จัดขึ้นในประเทศไทย "THAIFEX - Anuga Asia 2024" นับเป็นงานที่ใหญ่สุดในอาเซียน ภาพรวมงานในปีนี้มีความคึกคักมากกว่าปีก่อน เนื่องจากภาคเอกชนกลุ่มเครื่องดื่มและอาหารของไทยพาเหรดเข้ามาร่วมโชว์ศักยภาพธุรกิจ ท่ามกลางคู่ค้าและลูกค้าที่เข้ามาร่วมอย่างหนาแน่น

จากการประเมิน ภาพรวมบริษัทเอกชนกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มขนาดใหญ่ของไทยที่เข้ามาร่วมงานในปีนี้ ได้เห็นบทสรุปที่น่าสนใจหลายด้านคือ

  • การอวดโฉมสินค้านวัตกรรมสอดรับตามเทรนด์ที่มาแรง ทั้งกลุ่มสุขภาพและกลุ่มสำหรับเจาะลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้สูงอายุ เป็นต้น ทำให้สินค้าในกลุ่ม "เวย์โปรตีน" มาแรง
  • การมาร่วมงานของแบรนด์ใหญ่ครั้งแรกในงานไทยเฟ็กซ์ในปีนี้อย่าง เอ็มเค สุกี้ และโคคา สุกี้ ประกาศความพร้อมขยายตลาดไปในต่างประเทศ นับเป็นปีแห่งการรีเทิร์นของรายใหญ่รุกสมรภูมิอาหารครั้งใหญ่
  • การผนึกกำลังหลากหลายแบรนด์สู่สินค้าใหม่ๆ อย่างแม็คโคร ร่วมมือกับ ฮั่วเซ่งฮง ที่มีการผลิตติ่มซำ สร้างสินค้าพิเศษเข้ามาทำเจาะตลาด 
  • ตลาดที่เป็นเรือธงของเอกชนไทยในการส่งออก ยังเป็นภูมิภาคเอเชีย  ตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวดีอยู่ และมีจีดีพีขยายตัว แซงหน้าตลาดสำคัญอย่าง ยุโรปแล้ว
  • กล่มสินค้าซอสและเครื่องปรุงรสในงานมีอย่างหลากหลาย ทำให้ประเทศไทย ขึ้นชื่อเมืองแห่งซอสปรุงรสนานาๆ เมนู 
  • อีกทั้งภาคเอกชนรายใหญ่ต่างปรับยกระดับการนำเสนอสินค้า ผ่านตู้กดสินค้า ยกตัวอย่าง โคเรียดอง (KOREA DONG) ที่มีเมนู กุ้งดอง แซลมอนดอง เป็นต้น รวมถึงการมาของตู้เครื่องดื่มสเลอปี้ แบรนด์ครีเอทเครื่องดื่มรสชาติใหม่ๆ ให้ทุกคนได้ทดลองชิม 
  • การนำเสนอสินค้าและเทคโนโลยีการผลิต สอดรับกับความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งการโชว์โรงงานและเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

หากมาประเมินภาคเอกชนที่เข้ามาร่วมงานในปีนี้ ต่างมีไฮไลท์การนำเสนอสินค้านวัตกรรมและแผนการลงทุนขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น  

บทสรุป \'ไทยเฟ็กซ์67\'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

ซีพีแรม ลงทุน 2,000 ล้านบาท เร่งผลิตขนมปัง

กลุ่มซีพี ที่ขนทัพหลายแบรนด์มาร่วมงาน โดยในกลุ่มเบเกอรี่ได้มีการส่งสินค้านวัตกรรมและการเดินหน้าตามแผนลงทุน

นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ขยายการลงทุนใหม่ ด้วยการสร้างโรงงานผลิตสินค้าเบเกอรี่ในจังหวัดชลบุรี ใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท นับเป็นโรงงานแห่งที่ 16 ของบริษัท มีกำลังการผลิต 2.4 ล้านชิ้นต่อวัน รองรับความต้องการการในกลุ่มขนมปังที่มีสูงขึ้น

อีกทั้งประเมินในครึ่งปีหลังภาพรวมกำลังซื้อยังคงมีทิศทางขยายตัว ทำให้ประเมินภาพรวมในสิ้นปี 2567 จะสร้างธุรกิจเติบโต 10% ส่วนในช่วงไตรมาสแรก สร้างการเติบโต 10%

สำหรับงานไทยเฟ็กซ์ในครั้งนี้ ขนมปังเลอแปง ได้นำเสนอสินค้านวัตกรรม กับ ขนมปังขนาด 480 กรัม ที่ใช้แป้งสาลีไม่มีการฟอกสี และไม่มีคอเรสตอรอล นำมารุกขยายกลุ่มลูกค้าที่สนใจดูแลสุขภาพ พร้อมเปิดตัว อาหารกลุ่มใหม่สำหรับผู้สูงอายุ กับแบรนด์ “ครีเอเตอร์”  รองรับดีมานด์ของตลาดลูกค้ากลุ่มผู้สูงสูงอายุ

อีกเทรนด์ในปีนี้ของกลุ่มอาหารยังเป็นการกลับมาของแบรนด์ใหญ่ในวงการหม้อร้อนของประเทศไทย ในการเข้าร่วมงานไทยเฟ็กซ์เป็นปีแรกทั้ง เอ็มเค สุกี้ และยังมีแบรนด์ โคคา สุกี้ มาออกงานครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปีในการสร้างแบรนด์เลยเช่นกัน

 

บทสรุป \'ไทยเฟ็กซ์67\'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

เอ็มเค สุกี้ ส่ง แหลมเจริญ ซีฟู้ด ไทยไปทั่วโลก

ไฮไลท์ในครั้งนี้ ยังเป็นการการมาของงานไทยเฟ็กซ์เป็นครั้งแรกของกลุ่ม "เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป" ที่อยู่ในธุรกิจอาหารมากกว่า 63 ปี จึงใช้งานนี้ร่วมเปิดตัว 6 กลุ่มธุรกิจใหม่ในเครือ โดยพ่อทัพคนสำคัญกับ "ฤทธิ์ ธีระโกเมน" ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองค์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาร่วมงานแถลงข่าวพร้อมด้วยทายาท ทั้ง “ธีร์ ธีระโกเมน” และ “ทานตะวัน ธีระโกเมน”  ได้ร่วมฉายภาพของเอ็มเคในระยะยาว ที่ไม่ได้มุ่งหมายธุรกิจแต่ในประเทศไทย แต่ต้องการขยายอาณาจักรธุรกิจอาหารสยายปีกไปในทั่วโลก

พร้อมนำแบรนด์หลักทั้ง น้ำจิ้มสุกี้ MK แบบขวด เป็นแนวรุกสู่ตลาดส่งออก เนื่องจาก น้ำจิ้มสุกี้ ในตลาดโลกมีขนาดใหญ่มาก ประเมินว่ามูลค่าแตะระดับแสนล้านบาท โดยวางแผนจะเจาะตลาดโดยเฉพาะในประเทศที่มีฐานลูกค้ารู้จักแบรนด์สุกี้เอ็มเคอยู่แล้ว พร้อมยกตัวอย่างน้ำจิ้มของประเทศญี่ปุ่น ที่มีแบรนด์รสชาติเดียว สามารถขยายส่งออกไปในทั่วโลก

สำหรับแบรนด์อาหารไทยซีฟู้ด “แหลมเจริญ” เป็นแนวรุกขยายตลาดไปในทั่วโลก พร้อมสนใจหาพาร์ทเนอร์ต่างประเทศร่วมขยายตลาดไปในประเทศต่างๆ จากที่ผ่านมา ได้มีการเปิดสาขาไปในประเทศมาเลเซียแล้ว 3 สาขา ผ่านการร่วมพาร์ทเนอร์ในมาเลเซีย โดยวางแผนเปิดสาขาใหม่ในปีนี้อีก 5 สาขา รวมถึงสนใจขยายสาขาไปในตะวันออกกลางและสหรัฐ

“ฤทธิ์ ธีระโกเมน” ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองค์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โอกาสของร้านแหลมเจริญในตลาดโลก มีสูงมากกว่าอาหารกลุ่มหม้อร้อน เนื่องจากกลุ่มหม้อร้อนในตลาดโลกมีจำนวนแบรนด์ที่หลากหลาย แต่กลุ่มอาหารซีฟู้ดสไตล์ไทยในทั่วโลกยังไม่มีในรูปแบบแหลมเจริญมาก่อน

“ธีร์ ธีระโกเมน” ผู้บริหาร กลุ่ม "เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป" กล่าวเสริมว่า บริษัทมีแผนต่อยอดธุรกิจแหลมเจริญด้วยการลงทุน 60 ล้านบาท สร้างโรงงานแปรรูปปลากะพงสด ไปสู่เมนูปลากะพง ทอดน้ำปลา เมนูยอดนิยมของร้านแหลมเจริญ โดยโรงงานใหม่นี้อยู่ใน กทม. มีกำลังการผลิตเพิ่มจากวันละ 1,000-1,500 ตัวต่อวันไปสู่ 15,000 ตัวต่อตัน รองรับการเปิดสาขาใหม่ไปในต่างประเทศ และในอนาคตการเปิดสาขาที่จะมีจำนวนถึง 100 สาขา

ภาพรวมในปัจจุบัน กลุ่มเอ็มเคสุกี้มีสาขารวม 450 สาขา ยาโยอิ 200 สาขา และ แหลมเจริญ 45 สาขา

 

บทสรุป \'ไทยเฟ็กซ์67\'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

โคคา สุกี้ การรีเทิร์นครั้งใหญ่รอบ 67 ปี

อีกแบรนด์หม้อร้อนกับ โคคา สุกี้ ที่อยู่ในตลาดไทยมากกว่า 67 ปีแล้ว ได้เข้ามาร่วมแสดงศักยภาพของธุรกิจครั้งแรกในงานไทยเฟ็กซ์เช่นกัน โดยเปิดตัวธุรกิจในเครือทั้ง โคคา สุกี้, แม็งโก้ทรี พร้อมแบรนด์ใหม่ พร้อมด้วย Exquisine Global พร้อมสนใจร่วมหาพาร์ทเนอร์ขยายธุรกิจส่งออกไปในต่างประเทศผ่านแบรนด์ต่างๆ 

อีกทั้งได้เปิดตัวโรงงานของบริษัท ที่มีความพร้อมในการผลิตสินค้าอาหารพร้อมทาน เพื่อร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ ในการผลิตอาหารในระยะยาว

ส่วนแผนการขยายธุรกิจ โคคา สุกี้ ในประเทศไทย เตรียมแผนการรีโนเวทสาขา ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 4 สาขา รวมถึงมีแผนเปิดถึงทิศทางเร่งเครื่องธุรกิจในไทยในเร็วๆ นี้ด้วย

 

บทสรุป \'ไทยเฟ็กซ์67\'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

แม็คโคร วางหมากสู่ผู้นำตลาดในอาเซียน

ค้าปลีกไทยที่เข้ามาร่วมแสดงศักยภาพกับงานไทยเฟ็กซ์อย่างต่อเนื่องกับ “แม็คโคร” ที่นำเสนอสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของแม็คโคร ที่มีแบรนด์เรือธงกับ Aro กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ได้มีการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกใหม่และปรับโฉมรูปลักษณ์ให้เหมาะสมกับตลาดยุคใหม่ รวมถึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่กับ Aro Gold เจาะตลาดในกลุ่มพรีเมียม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่กลุ่มลูกค้า

รวมด้วยการนำเสนอสินค้าโมเดล การร่วมมือกับแบรนด์ดังในประเทศไทยอย่าง "ฮั่วเซ่งฮง" ที่มีการผลิตติ่มซำ ทำตลาดและนำมาจำหน่ายในแม็คโคร เป็นต้น หรือแบรนด์อื่นๆ ที่นำจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูชีฟในแม็คโครเท่านั้น รวมถึงกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีการร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์ต่างประเทศ นำสินค้าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย

นายธนิศร์ เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ประเทศไทย กล่าวว่า แม็คโครได้มีการผนึกกำลังกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อร่วมผลิตสินค้าและส่งออกไปสู่ต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงในการส่งออก 5 รายการได้แก่ กลุ่มซอสผัดไท น้ำจิ้มแจ๋ว ซอสซีฟู้ด ซอสพริก และ ซอสต้มยำ จึงประเมินว่า แนวโน้มในระยะต่อไป การส่งออกของแม็คโครสู่ตลาด ภายใต้การร่วมมือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจึงมีโอกาสสูง

 

บทสรุป \'ไทยเฟ็กซ์67\'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

น้ำมันพืชกุ๊ก เร่งเสริมแกร่งธุรกิจ เจาะอาเซียน

อาณาจักร "พูลผล" ที่เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรมายาวนานกว่า 50 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์หลักทั้ง น้ำมันพืชกุ๊ก และ วุ้นเส้นต้นสน ได้มาร่วมงานไทยเฟ็กซ์ในทุกปี พร้อมประเมินโอกาสตลาดอาหารไทยในตลาดโลกยังมีศักยภาพสูง

นายเพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด หรือผู้ผลิตและจำหน่าย “น้ำมันพืชกุ๊ก” หนึ่งในธุรกิจหลักของ “กลุ่มพูลผล” กล่าวว่า นโยบายของบริษัทได้มุ่งขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคอาเซียน ที่สามารถผลักดันการส่งออกไปได้เพิ่มขึ้น จากในปัจจุบันมีการส่งออกไปในประเทศลาว กัมพูชา เมียนมา อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้

ทั้งนี้ท่ามกลางตลาดโลกที่มีการแข่งขันรุนแรงในทุกปี และในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารของไทยถือเป็นครัวของโลก ทำให้บริษัทวางนโยบายการสร้างมาตรฐานในการผลิตสินค้า เพื่อสร้างความมั่นให้แก่คู่ค้า ทั้งมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า รวมถึงบริษัทได้มีการพัฒนากระบวนการผลิต ปรับใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทําให้สามารถลดการใช้พลังงาน ลดการใช้พลาสติก และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ทั้งหมดสอดรับกับแผนการเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจ

“ทั้งหมดเป็นการร่วมตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็นองค์กรชั้นนำของอาเซียนในอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตจากพืชน้ำมัน ด้วยนวัตกรรมด้านกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ และบริการ มีคุณธรรม รับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพันธกิจในการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน”

ที่น่าสนใจคือ กลุ่มพูลผล เป็นแบรนด์ที่มุ่งการพัฒนาและวิจัยสินค้า จากทีมวิจัยของบริษัทที่มีกว่า 80 คน มุ่งนำผลผลิตการเกษตรต่างๆ ไปยกระดับ สร้างมูลค่าให้เพิ่มขึ้น ล่าสุด ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เวย์โปรตีน ที่พัฒนาจากถั่วลันเตาสีทอง เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในงานนี้เช่นกัน

 

บทสรุป \'ไทยเฟ็กซ์67\'-มองสเต๊ปต่อไป บิ๊กคอร์ปดันแบรนด์ยึดสมรภูมิอาหารโลก

เครื่องดื่มชบา เร่งนวัตกรรมเครื่องดื่มเพื่อความยั่งยืน

กลุ่มเครื่องดื่ม โดย บริษัท ชบาบางกอก จำกัด ได้ร่วมนำเสนอสินค้านวัตกรรมและผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม สอดรับกับความยั่งยืนสู่ตลาดโลก ซึ่งมีแบรนด์หลักที่นำเสนอ ทั้งนมโอ๊ต Goodmate น้ำผลไม้ CHABAA และชาไทย Ochasan วางแผนขยายตลาดเครื่องดื่มออกไปในทั่วโลก

นอกจากนี้ได้โชว์แนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดสีเขียว (Green Ideas) ทั้งพัฒนาแพคเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งแพคเกจจิ้งแบรนด์ Goodmate ออกแบบเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 71.4% ลดการใช้พื้นที่ 91.6% และลดใช้น้ำ 92.3% นอกจากนี้ 75% ของวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกล่องนมทำจากทรัพยากรที่สามารถทดแทนได้ จึงสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์น้อยกว่ากล่องนมอื่น และนำไปรีไซเคิลได้ และได้รับการรับรองเครื่องหมาย FSC แสดงถึงความยั่งยืน ร่วมตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกวัย และทุกกลุ่ม

จากทั้งหมดนี้ ภาคเอกชนรายใหญ่ของไทย ยังมองความหวังบวกกับการส่งออก พร้อมให้น้ำหนักการขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ โดยเฉพาะโมเดลแฟรนไชส์และการมีพาร์ทเนอร์ในต่างประเทศ เพื่อเร่งติดสปีดการเติบโตในระยะยาว ! ร่วมกระจายความเสี่ยง จากตลาดในประเทศ