บรรยากาศเก็งกำไรรายตัวยังเป็นบวกในกรอบ 1,620-1,650 จุด

ขณะที่อาจไม่แตะเกี่ยวกับเรื่องของดอกเบี้ยมากไปกว่าการยืนยันความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้อ ทั้งนี้เรามองผลของการประชุมไม่กระทบต่อภาพรวมของการซื้อขายระยะสั้นอย่างมีนัยสำคัญ หากไม่มีความเห็นที่ทำให้ตลาดประเมินจุดสุงสุดของวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ย เลื่อนออกไปจาก มี.ค.66 โดยปัจจุบันตลาดมอง Implied rate ที่ 3.793% 

 

รัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (1.46 แสนล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโรคโควิด-19 และการทรุดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมาตรการดังกล่าวรวมถึงการจัดสรรเงินให้กับธนาคารตามนโยบายของรัฐฯ (State policy banks) เพื่อให้ธนาคารเหล่านี้นำเงินไปลงทุนในโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน และจัดสรรให้รัฐบาลท้องถิ่นใช้ในการออกพันธบัตรพิเศษ ทั้งนี้นักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการดังกล่าว ประกอบกับมีกระแสข่าวกลต.จีนมีการพูดคุยกับผู้สอบบัญชีระดับโลก 4 แห่งด้วยท่าทีประนีประนอมมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องมาตรฐานบัญชี ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำให้ Nasdaq Golden Dragon China Index เมื่อคืนนี้ปรับขึ้น +6.26%
 

SCB ยกเลิกข้อตกลงเข้าซื้อ Bitkub ไทยพาณิชย์ออกแถลงการยุติการเข้าซื้อหุ้น 51% ใน Bitkub แม้ไม่พบความผิดปกติที่ไม่อาจแก้ไขได้ แต่มีความไม่แน่นอนและไม่ชัดเจนที่เกิดจากการตรวจสอบของกลต.ทำให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงยกเลิกธุรกรรมดังกล่าว ซึ่งการปลดล็อคความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงเข้าซื้อธุรกิจในราคาแพงหลังตลาดสินทรัพย์ดิจิตอลเป็นขาลง ทำให้ SCB ฟื้นตัวขึ้น และมีความน่าสนใจมากขึ้น //สำหรับหุ้นเด่นกลุ่มธนาคารในเชิงปัจจัยพื้นฐาน มี 3 ตัว โดย เราให้ BBL (ซื้อ ราคาเหมาะสม 165 บาท), TTB (ซื้อ ราคาเหมาะสม 1.57 บาท) และ SCB (ซื้อ ราคาเหมาะสม 138 บาท) ขณะที่ทางกลยุทธ์มอง LHFG (เก็งกำไร เป้ากลยุทธ์ 1.35 บาท) น่าสนใจจากทิศทางการตั้งสำรองที่ชะลอจะเป็นบวกต่อกำไร

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มได้ประโยชน์จากคนละครึ่งเฟส 5 อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE, TNP, KK, MAKRO 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM

ภาพรวมกลยุทธ์: การเก็งกำไรในกรอบ 1,620-1,650 จุด เน้นเลือกประเด็นบวกรายตัว ภาพใหญ่ทยอยเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) สำหรับ DR หุ้นจีน ทยอยสะสม สำหรับการเก็งกำไร เน้นหุ้นที่ยังปรับขึ้นน้อย   //หุ้นแนะนำ:  TIDLOR*, SCB*, LHFG*, BABA80*

แนวรับ: 1,629 / แนวต้าน : 1,645-1,650 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด – ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 243,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าคาดที่ 255,000 ราย

สหรัฐเผย GDP หดตัว 0.6% ใน Q2/65 – ตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งที่ 2 ประจำไตรมาส 2 หดตัว 0.6% ขณะที่ประมาณการครั้งที่ 1 หดตัว 0.9%

นักลงทุนให้น้ำหนัก 60.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% – FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 60.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 39.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

เศรษฐกิจเยอรมนีโต 0.1% ใน Q2/65 สูงกว่าคาดการณ์ - GDP ไตรมาส 2/2565 ขยายตัว 0.1% qoq ในการประมาณการครั้งที่สอง ดีกว่าที่คาดว่าเศรษฐกิจจะซบเซาลงจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง และความไม่แน่นอนจากกรณีรัสเซียรุกรานยูเครน

BOJ ย้ำต้องคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ - ต้องบังคับใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ต่อไป เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการพุ่งขึ้นอีกครั้งของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และปัญหาอุปสงค์โลกชะลอตัว

แคลิฟอร์เนียสั่งห้ามการขายรถใหม่ที่ใช้น้ำมันในปี 2035 – จะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องเร่งการผลิตรถยนต์พลังงานสะอาดซึ่งจะเริ่มในปี 2026 ทั้งนี้ การครอบครอง การขับ และกาขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันในตลาดมือสองยังคงทำได้

ยอดส่งออกรถยนต์ ก.ค. 65 อยู่ที่ 83,086 คัน เพิ่มขึ้น 17.70%YoY – สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือน ก.ค.65 อยู่ที่ 83,086 คัน เพิ่มขึ้น 17.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

กกพ. เคาะลดค่าผ่านท่อก๊าซ PTT ใหม่ – มีผลช่วยลดต้นทุนของกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซ (BGRIM, GPSC, GULF) อย่างไรก็ตามคาดกระทบต่อกำไร PTT ในระดับปีละ 4-5 พันล้านบาท (5% ของกำไรสุทธิ) ทำให้เป็นลบต่อราคาหุ้นระยะสั้น

Opportunity day – 26 ส.ค. – CPALL, KTC, SENA, EA, THANI, FTE, SYNEX, MICRO, BJCHI, PDJ, BCH, JKN, GPSC / 29 ส.ค. – SEAFCO, PIN, MOONG, CHO, IIG, TWPC, WHA / 30 ส.ค. – GFPT, NCH, DMT, SA, CRC, AH, SCM

 

ประเด็นติดตาม: 26 ส.ค. – Jackson Hole Symposium, Fed Chair Powell Speaks, US Core PCE Price Index / 30 ส.ค. – US JOLTs, US CB Consumer Confidence / 31 ส.ค. – EU CPI, Crude Oil Inventories

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)