กนอ. นำทัพ 10 บิ๊กผู้พัฒนานิคมฯ บุกฐานผลิตเมืองนาโกย่า ดึงลงทุนเหล็ก รถยนต์
กนอ. นำผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมรายใหญ่ 10 ราย โรดโชว์ชักจูงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ณ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ดึงลงทุนอุตฯ เหล็ก รถยนต์ ปั้นไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 26 -29 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมจาก 10 นิคมอุตสาหกรรม เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมไทย ณ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น โดยมีการจัดสัมมนาส่งเสริมการลงทุนในหัวข้อ “Manufacturing Game Changers! It’s Time for Thailand” รวมถึงการออกบูธของนิคมอุตสาหกรรมไทย
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายในหัวข้อ “An Update of Investments in Thailand's Industrial Estates” เพื่อนำเสนอข้อมูลปัจจุบันของพื้นที่การลงทุนในประเทศไทย ศักยภาพและความพร้อมรองรับการลงทุน ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (Special Economic Zone : SEZ)
ทั้งนี้ กนอ. ให้ความสำคัญกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve และ New S- Curve รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เพื่อชักจูงให้มาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่บริษัทญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ
ขณะที่ นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเป็นอันดับ 1 ของการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม มีจำนวน 1,951 ราย มูลค่าการลงทุนรวม 3,103,176.5 ล้านบาท ซึ่งกว่า 70% ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC
โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก คือ 1.อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง 2.อุตสาหกรรมเหล็ก และผลิตภัณฑ์โลหะ 3.อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ 4.อุตสาหกรรมยาง พลาสติก และหนังเทียม และ 5.อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือวิทยาศาสตร์
“การโรดโชว์ครั้งนี้จะแสดงถึงศักยภาพความพร้อมรับการลงทุนของนิคมอุตสาหกรรมไทย เพราะวันนี้เมืองนาโกย่าเป็นผู้นำระดับประเทศในสายการผลิตรถยนต์ เครื่องจักรอุตสาหกรรม วิศวกรรมหุ่นยนต์ และยานอวกาศ มีท่าเรือที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่น อาทิ โตโยต้า ซูซูกิ และฮอนด้า มอเตอร์ ถือเป็นกำลังหลักทางการเงินของญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ กนอ. ยังมีโอกาสได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประกอบการปัจจุบัน (Customer Visit) ที่ประกอบกิจการในนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ในจังหวัดไอจิ 4 บริษัท ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะ โดยมีที่ตั้งโรงงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง โครงการ 2, โครงการ 3 และโครงการ 5 ด้วย
ทั้งนี้ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคนั้น ต้องยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความโดดเด่น ควบคู่ไปกับการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมากขึ้น
“โดยการจัด Roadshow ครั้งนี้ ก็เพื่อโชว์ศักยภาพและความพร้อมในการรองรับการลงทุน รวมทั้งนำเสนอมาตรการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี การบริการแบบครบวงจรทั้งก่อนและหลังการลงทุน และการสร้างระบบนิเวศในการลงทุนที่มุ่งสร้าง Smart & Sustainability เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในอนาคตด้วยกัน”