'ทางหลวง' จ่อเปิดพีพีพี เม.ย.นี้ ดึงเอกชนบริหารมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน

'ทางหลวง' จ่อเปิดพีพีพี เม.ย.นี้ ดึงเอกชนบริหารมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน

“กรมทางหลวง” เตรียมเปิดพีพีพี เม.ย.นี้ ดึงเอกชนร่วมทุนบริหารระบบ O&M มอเตอร์เวย์บางขุนเทียน – บ้านแพ้ว 1.5 หมื่นล้านบาท สัมปทานรวม 32 ปี

นายปิยพงษ์ จิวัฒนกุลไพศาล รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน (Market Sounding) โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว สำหรับการให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โดยระบุว่า หลังการจัดรับฟังความคิดเห็น ทล.จะทำไปจัดทำเป็นร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน เม.ย.นี้

สำหรับโครงการร่วมลงทุน O&M ทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว มีระยะทาง 24.7 กิโลเมตร วงเงิน 15,724 ล้านบาท สัญญาสัมปทาน 32 ปี แบ่งเป็น ค่างาน O&M วงเงิน 14,687 ล้านบาท ระยะเวลา 30 ปี และค่าก่อสร้างงานระบบ วงเงิน 1,037 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี ซึ่ง ทล.จะเปิดให้เอกชนร่วมทุนภายใน พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 2562 ในลักษณะ PPP Gross Cost โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนระบบ O&M และได้ค่าตอบแทนจากการก่อสร้าง ส่วนรัฐจะชำระเงินค่าลงทุนคืนให้แก่เอกชน

\'ทางหลวง\' จ่อเปิดพีพีพี เม.ย.นี้ ดึงเอกชนบริหารมอเตอร์เวย์บางขุนเทียน

 

โดยจะเริ่มชำระค่าลงทุนต่อเมื่อโครงการเปิดให้บริการและจัดเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งแบ่งการดำเนินงาน ออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย

ระยะที่ 1 เอกชนจะเป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง และติดตั้งงานระบบ และองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องด้วยรูปแบบระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (ระบบ M-Flow) ทั้งโครงการ และต้องถ่ายโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนให้ภาครัฐก่อนเริ่มดำเนินโครงการ (ไม่เกิน 2 ปี)

ระยะที่ 2 เอกชนจะเป็นผู้ดำเนินงานและบำรุงรักษาโครงการทั้งหมด ทั้งงานโยธาในส่วนที่รัฐเป็นผู้ลงทุน และงานระบบในส่วนที่เอกชนเป็นผู้ลงทุน ตลอดจนเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างและนำส่งข้อมูลรายการผ่านทาง (Transaction Generation) ทั้งหมดให้แก่ภาครัฐ รวมทั้งดำเนินงานอื่นที่เกี่ยวข้องตามชอบเขตงานและเงื่อนไขที่กำหนด โดยเอกชนจะได้รับเงินค่าตอบแทนจากการให้บริการ

ทั้งนี้ ทล.ประเมินกรอบดำเนินงานเบื้องต้น จะเปิดรับฟังความเห็นภาคเอกชนระหว่างวันที่ 15 ม.ค. – 6 ก.พ.2567 และเปิดให้เอกชนแสดงความคิดเห็นระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 6 ก.พ.2567 หลังจากนั้นจะจัดทำร่างประกาศเชิญชวน เพื่อเปิดประมูลภายในเดือน เม.ย.นี้ และเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอภายใน 3-4 เดือน ทั้งนี้ตามกระบวนการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปลายปี 2567 คาดว่าจะลงนามสัญญาและเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในต้นปี 2568 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2570

ด้านอัตราค่าธรรมเนียมผ่านทาง ผลการศึกษาความเหมาะสมกำหนด แบ่งเป็น รถยนต์ 4 ล้อ อัตราค่าแรกเข้า 10 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาทต่อกิโลเมตร, 6 ล้อ อัตราแรกเข้า 16 บาท เก็บเพิ่ม 3.2 บาทต่อกิโลเมตร และ รถมากกว่า 6 ล้อ อัตราแรกเข้า 23 บาท เก็บเพิ่มขึ้น 4.6 บาทต่อกิโลเมตร คาดการณ์ปริมาณจราจรปีเปิดให้บริการที่ 64,203 คันต่อวัน รายได้ประมาณ 1,272.71 ล้านบาทต่อปี มีปริมาณจราจรรวม 30 ปีที่ 1,548 ล้านคัน มีรายได้ค่าผ่านทางรวม 116,954 ล้านบาท

ส่วนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจนั้น จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจโดยมีมูลค่าปัจจุบันสุทธิ เท่ากับ 23,264 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ 19.7% โดยพบว่าโครงการมีความเหมาะสมและมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนทางการเงินในเกณฑ์ต่ำ โดยมีอัตราผลตอบแทนทางการเงิน 2.6% แต่เมื่อพิจารณาผลตอบแทนทางการเงินของโครงการตลอดสาย คือ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว พบว่ามีความเหมาะสมและมีความคุ้มค่าต่อการลงทุนทางการเงิน โดยมีอัตราผลตอบแทนทางการเงิน 7.1%