สภาพัฒน์ หารือเอกชน ร่วมขับเคลื่อนไทยเข้า ‘OECD’ คาด 5 ปีเข้าเป็นสมาชิกได้

สภาพัฒน์ หารือเอกชน ร่วมขับเคลื่อนไทยเข้า ‘OECD’ คาด 5 ปีเข้าเป็นสมาชิกได้

"สภาพัฒน์" พบตัวแทนภาคเอกชน คณะกรรมการหอการค้าไทย หารือแนวทางส่งเสริมประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิก OECD ชี้แจงขั้นตอน กระบวนการก่อน ชี้ช่วยยกมาตรฐานไทยให้ได้รับการยอมรับในเวทีระดับนานาชาติมากขึ้น โดยภาคเอกชนไทยสามารถเข้าร่วม BIAC ในฐานะ Observers ได้เหมือนหลายประเทศ

นายวันฉัตร สุวรรณกิตติ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้นำเสนอ เรื่อง การเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD) ของประเทศไทย ให้กับคณะกรรมการหอการค้าไทย รับทราบ และตระหนักรู้ถึงบทบาทของภาคเอกชนซึ่งจะเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย โดยมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานกิตติมศักดิ์ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ และ ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย และกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมรับฟัง และให้ข้อคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

สภาพัฒน์ หารือเอกชน ร่วมขับเคลื่อนไทยเข้า ‘OECD’ คาด 5 ปีเข้าเป็นสมาชิกได้

รองเลขาธิการ ได้นำเสนอภาพรวมเกี่ยวกับ OECD ซึ่งรวมถึงโครงสร้างของ OECD ที่เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ ภาคแรงงาน ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ จากประเทศสมาชิก และมิใช่ประเทศสมาชิก เข้ามามีส่วนร่วมในลักษณะของ Policy Makers and Policy Shapers เพื่อให้ข้อเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่างๆ ร่วมกับ OECD โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่มีกลุ่มเฉพาะซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของเครือข่ายภาคธุรกิจของประเทศสมาชิก OECD (Business at the OECD: BIAC) มีบทบาทสำคัญในการให้ข้อเสนอแนะหรือมุมมองทางธุรกิจ เพื่อให้ OECD นำไปใช้ในการกำหนดนโยบายที่ครอบคลุม และเหมาะสมกับธุรกิจทุกขนาดตามบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป 

โดยภาคเอกชนไทยสามารถเข้าร่วม BIAC ในฐานะ Observers ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรภาคเอกชนจากหลายประเทศที่ไม่ใช่สมาชิกเข้าร่วม เช่น Federation of Indian Chambers of Commerce and Industry และ Singapore Business Federation เป็นต้น นอกจากนี้ BIAC ยังมีกลุ่มย่อยภายในหรือ Policy Groups ที่ภาคเอกชนไทยสามารถเลือกดำเนินความร่วมมือเฉพาะเรื่องได้ เช่น ตลาดเกิดใหม่ ทักษะ และการจ้างงาน และการจัดเก็บภาษี เป็นต้น

 

 

 

 

OECD ยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ ซึ่งอยู่ในรูปแบบของตราสารทาง กฎหมาย (OECD legal instruments) ข้อแนะนำ และแนวปฏิบัติต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล  ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนในด้านต่างๆ เช่น การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล การจัดการด้านภาษีที่เป็นธรรม และกรอบนโยบายด้านการลงทุน เป็นต้น ซึ่งหากไทยเข้าเป็นสมาชิก OECD แล้ว ภาคเอกชนก็ต้องปรับการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD ด้วยเช่นกัน โดยประโยชน์ที่ภาคเอกชนจะได้รับคือ การมีมาตรฐานทางธุรกิจเทียบเท่าระดับสากล ส่งผลให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือสูง และยังช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยในเวทีโลกอีกด้วย

 

สำหรับสถานะการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทยในปัจจุบัน คณะมนตรี OECD (OECD Council) พิจารณารับไทยเข้าสู่กระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD (accession process) แล้วต่อไปเป็นขั้นตอนที่ประเทศไทยต้องดำเนินการปรับกฎหมาย นโยบาย และแนวปฏิบัติให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD

คาด 5 ปีไทยเข้าเป็นสมาชิก 

โดย สศช. คาดว่าอาจใช้เวลาประมาณ 5 ปี ซึ่งน้อยกว่าประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ที่เข้าเป็นสมาชิก OECD ไปแล้ว เช่น โคลอมเบีย และคอสตาริกา ที่ใช้เวลาประมาณ 9 ปี เนื่องจากที่ผ่านมาไทยและ OECD มีความร่วมมือที่เข้มแข็งมายาวนาน และได้ปรับมาตรฐานเรื่องต่างๆ ให้สอดคล้องกับ OECD แล้วระดับหนึ่ง ผ่านการดำเนินโครงการ  OECD-Thailand Country Programme ระยะที่ 1 (ปี 2561 – 2564) และระยะที่ 2 (ปี 2566 – 2569)

สภาพัฒน์ หารือเอกชน ร่วมขับเคลื่อนไทยเข้า ‘OECD’ คาด 5 ปีเข้าเป็นสมาชิกได้

 

รองเลขาธิการ ระบุว่า ตลอดกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ และแรงผลักดันจากภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการเข้าเป็นสมาชิกให้สำเร็จลุล่วงไปได้ โดยมีประเด็นขอความร่วมมือจากภาคเอกชน 3 ประเด็น ได้แก่ (1) ศึกษาและปฏิบัติตามมาตรฐาน OECD ที่เกี่ยวข้องกับภาคเอกชน เช่น การกำกับดูแลกิจการที่ดี (2) ร่วมมือกับภาครัฐเพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นสมาชิก OECD เช่น เป็นผู้แทนในคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือคณะที่ปรึกษา และ (3) สร้างบทบาทของภาคเอกชนไทยในเวทีระหว่างประเทศผ่าน BIAC เนื่องจาก BIAC มีบทบาทสำคัญร่วมกับเครือข่ายภาคธุรกิจในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอื่นๆ เช่น ASEAN-BAC และ B20-G20 ทั้งนี้ ภาคเอกชนสามารถติดต่อมายัง สศช. เพื่อประสานไปยังเจ้าหน้าที่ OECD เพื่อเริ่มดำเนินความร่วมมือกับ BIAC ได้ทันที

ในโอกาสนี้ ได้มีผู้แทนคณะกรรมการหอการค้าไทย ร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของประเทศไทย โดยแนะนำให้ภาครัฐเร่งสื่อสารกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ  การเข้าเป็นสมาชิก และประโยชน์ที่ภาคเอกชนจะได้รับ ตลอดจนต้องมีกระบวนการที่ชัดเจนเพื่อให้ภาคเอกชนสามารถดำเนินการร่วมกับภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ รองเลขาธิการ เน้นย้ำว่า ทุกภาคส่วนล้วนเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย และอยากให้ภาคเอกชนตระหนักว่าการเข้าเป็นสมาชิก OECD มิได้เป็นการเพิ่มภาระให้กับการดำเนินธุรกิจ แต่ OECD คือ มาตรฐานที่จะช่วยยกระดับธุรกิจไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแรง และยั่งยืน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์