TDRI ห่วงปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทย ชี้การเมือง - โครงสร้างผลิต ฉุดโอกาสเติบโต
TDRI ชี้ความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยระยะสั้น - ยาว ปัจจัยการเมืองกดดัน ทำไทยเสียโอกาสในการฟื้นตัวช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้น ส่วนระยะยาวอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า ไทยจะยังเจอกับปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจที่ไม่สามารถปรับภาคการผลิตให้สอดคล้องกับเทรนด์ - เทคโนโลยีโลกได้
นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงปัจจัยต่างๆ ที่จะกระทบกับเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น และระยะยาวว่าในระยะสั้น ซึ่งหมายถึง 1-2 ปี ข้างหน้า ความเสี่ยงของประเทศไทยนั้นแยกเป็น 2 มิติคือ มิติทางด้านเศรษฐกิจ และมิติทางด้านการเมือง
เศรษฐกิจโลกฟื้นไทยติดกับดักการเมือง
สำหรับมิติทางด้านเศรษฐกิจ มองว่าเศรษฐกิจไทยนั้นได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวขึ้นตามวัฏจักรเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะดอกเบี้ยที่ลดลง เช่น ยุโรปเริ่มลดลงแล้ว ส่วนธนาคารกลางของสหรัฐ คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลง 1 ครั้งในปีนี้ และ 4 ครั้งในปีหน้า ทำให้ดอกเบี้ยไทยก็มีแนวโน้มน่าจะเริ่มลดลงเช่นกัน จึงช่วยสนับสนุนการลงทุนอีกแรงหนึ่ง
ขณะที่ปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องก็มีปัจจัยบวกจาก พ.ร.บ. งบประมาณ และนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้กำลังจะเริ่มทยอยออกมาเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางบวกขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา
“เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในช่วงรุ่งเช้า เป็นช่วงที่มืดมิดแต่แสงยามเช้ากำลังจะเข้ามา ทั้งเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะผ่านวัฏจักรดอกเบี้ยสูงได้โดยไม่เกิดสภาวะถดถอยอย่างรุนแรง และเศรษฐกิจภายในที่การจับจ่ายใช้สอยภาครัฐกำลังกลับมาหลังจาก การผ่านงบประมาณ แต่ในระยะสั้นยังมีความกังวลใจถึงมิติทางด้านการเมืองว่าจะเข้ามากระทบทำให้แสงอาทิตย์ยามเช้าจะมาได้ล่าช้าหรือไม่?
เพราะมีทั้งเรื่องการถอดถอนตัวนายกฯ การยุบพรรคการเมือง การเลือกตั้ง สว. ซึ่งหากว่าการเมืองไม่นิ่ง เช่น มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ เปลี่ยนคณะรัฐมนตรี หรือความไม่สงบมีการประท้วงทางการเมืองย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ และทำให้ไทยอาจจะต้องพบกับช่วงมืดมิดไปอีกระยะหนึ่ง”
ห่วงระยะยาวไทยตกขบวนเทคโนโลยี
สำหรับในระยะยาว ประมาณ 3-5 ปีข้างหน้า ถือว่าเป็นที่น่าเสียดายว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจโลกได้ดีมากนัก ไทยอาจจะเป็นผู้นำในหลายๆ ด้าน เช่น มียอดซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่สูง แต่ท้ายที่สุด ประเทศไทยจะได้อะไรจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเทรนด์การพัฒนาเทคโนโลยีโลกในปัจจุบันหรือไม่
ในเรื่องนี้ยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามมาก เพราะสิ่งที่น่ากังวลใจว่าประเทศไทยจะทำตรงนี้ได้ไม่ดีมากนัก หรือก็คือ เสียโอกาสที่จะตักตวงผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในรอบนี้ได้อย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน
ไทยเจอปัญหาไร้จุดสมดุลการเมือง
ขณะที่ในระยะยาวก็ยังมีความไม่แน่นอนว่าปัจจัยทางด้านการเมืองยังคงจะหลอกหลอนประเทศไทยต่อไป โดยไทยยังหาจุดสมดุลทางการเมืองไม่ได้ กลายเป็นวงจรอุบาทว์ไม่สามารถสร้างนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศเพื่อประชาชนได้อย่างยั่งยืนที่แท้จริง กลายเป็นประเทศที่ล้าหลังทั้งทางด้านการเมือง และทางด้านเศรษฐกิจ ตกขบวนการพัฒนาของโลกไปในที่สุด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
