'นักวิชาการ' ชี้ช่องโหว่ ร่างพ.ร.บ.กาสิโน เอื้อนายทุน-ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจ
"นักวิชาการ" ประสานเสียงเปิดช่องโหว่ (ร่าง) พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ย้ำ "ไม่ตรงปก-ตีเช็คเปล่า-เอื้อทุนใหญ่" ชี้หากเปิด "กาสิโน" ถูกกฎหมาย ซ้ำเติมหนี้ครัวเรือน เพิ่มอาชญากรรม-คอร์รัปชัน หวังประชาชนกว่า 50% ที่ไม่เห็นด้วย ร่วมเป็นกระบอกเสียงส่งต่อรัฐบาล
มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน จัดเสวนา วิพากษ์ (ร่าง) พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ "แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่" โดย นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า การเปิดกาสิโนสิ่งสำคัญคือ กฎหมาย ซึ่งกาสิโน หรือ พนัน เปรียบเหมือนเสือที่ดุร้าย แนวคิดของรัฐบาลต้องการเอาละครสัตว์ที่เป็นเสือมาโชว์ หากดูแลไม่ดีก็ออกไปกัดคนได้
ดังนั้น หากหวังจะสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ กฎหมายต้องแข็งแรงโดยให้มีหน่วยงานควบคุม และมอบอาวุธให้ รวมทั้งหน่วยงานกำกับดูแล แต่ปัจจุบันกฎหมายที่ร่างออกมายังมีช่องโหว่ และเพียงพอหรือยัง ส่วนตัวขอย้ำว่าแค่ชื่อของ พ.ร.บ.ก็ผิดแล้ว ซึ่งควรใช้ชื่อ พ.ร.บ.กาสิโน หรือ พ.ร.บ.ควบคุมกาสิโน ไม่ใช่พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จึงแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก คือ
1. ไม่ตรงปก เพราะกาสิโนเป็นเพียงไม่เกิน 5% ของเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และรัฐบาลชูสิงคโปร์โมเดลที่ต้องสร้างตึกสูงๆ มีห้างสรรพสินค้าครบวงจร โรงแรมระดับ 5 ดาว ก็ถูกตัดทิ้ง ผู้จะเข้าไปเล่นต้องมีฐานะระดับไฮเอนด์มีเงิน 5 แสนบาท สิ่งเหล่านี้ได้หายไป รวมถึงกลไกป้องกันฟื้นฟูผลกระทบด้วย ที่ร่างใหม่ถูกตัดทิ้งทั้งหมด
2. ตีเช็คเปล่า เอื้อคณะบุคคลบางคณะ เนื่องจากการกำกับโดยบอร์ดนโยบาย 18 อรหัน ที่มีอำนาจล้นฟ้า สามารถชี้ชะตากาสิโนไทยตั้งแต่ทำคลอดจนลงโลง ดังนั้น ต้องเข้าใจว่ากฎหมายจะต้องอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป ซึ่งในกฎหมายยังเอื้อการปล่อยสินเชื่อในกาสิโนได้ด้วย มองว่าไม่สมควร
3. เอื้อทุนใหญ่ ให้ถือยาว ซึ่งต้องมีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังไม่ต้องประมูลใบอนุญาต แต่บอร์ดสามารถอนุมัติให้ได้ และขยายการถือครองใบอนุญาต 30 ปี จากเดิมที่มีอายุ 20 ปีก็ถือว่าเยอะแล้ว ยิ่งเยอะไปอีก อีกทั้ง ยังยกเว้นนักลงทุนต่างด้าวด้วย
"ร่างใหม่นี้แย่กว่าร่างของกรรมาธิการด้วยซ้ำ อีกทั้งยังมีการตัดเกณฑ์ก่อนกำหนดขอบเขตที่ตั้งต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้ง บทลงโทษก็ถูกบังคับใช้หรือไม่ เพราะกลไกผู้ออกคำสั่งคือบอร์ด" นายธนากร กล่าว
นายธนากร กล่าว หากพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวผ่าน ประเทศไทยจะมีดัชนีคอร์รัปชันที่แย่ลงเรื่อยๆ ควรมีเงื่อนไขของประชาชนคือ ต้องเตือน ต้องต่อรอง ต้องตบเท้า และต้องคว่ำ เนื่องจากกฎหมายยังไม่ดีพอ และอันตรายมาก ถือเป็นวิธีคิดไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู อีกทั้ง รัฐบาลควรแก้พ.ร.บ.การพนัน ให้แข็งแรงก่อน ไม่ใช่มาเลาะช่องเร่งทำ พ.ร.บ. ฉบับนี้ และดึงกลไกทั้งหลายให้อยู่ภายใต้พ.ร.บ.การพนัน บรรจุไว้ในคณะกรรมการบริหารระดับชาติ
ด้าน ผศ.ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า รัฐบาลมักเน้นย้ำว่ากาสิโนถูกกฎหมายจะสนับสนุนภาคท่องเที่ยวเป็นภาคอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้ประเทศ ดันการท่องเที่ยวยั่งยืน ดังนั้น จึงอยากให้โฟกัสว่า จะยั่งยืนได้อย่างไร เพราะคำนิยามการท่องยั่งยืนนั้น รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในมิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ต้องยั่งยืน ทั้งระยะสั้นและยาว
โดยมิติสังคมนั้น จากการวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในสหรัฐอเมริกา พบว่า การมีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศส่งผลกระทบ แบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ
1. ยิ่งพื้นที่ใดมีการพนันถูกกฎหมายมาก จะเกิดการพนันแพร่หลาย ยอดการติดพนันเพิ่มขึ้น
2. ยิ่งถูกกฎหมายนานขึ้นเท่าไร ปัญหาที่เกิดจากการพนันก็มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเชื่อมโยงไปยังปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ไม่เข้มแข็ง และเกิดปัญหาอาชญากรรม
ส่วนมิติเศรษฐกิจ แบ่งเป็น 3 ประเด็น คือ การสร้างรายได้ภาครัฐ เกิดการจ้างงาน และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งการจะสร้างรายได้ให้รัฐบาลหรือไม่นั้น ผลศึกษาจากการเกิดกาสิโนที่ลาสเวกัส พบว่าจำนวนเงิน 1 ดอลลาร์ ที่ได้มาจากภาษีของกาสิโน รัฐต้องจ่ายค่าเยียวยาผลกระทบถึง 3 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นจริง แต่เป็นการจ้างงานไม่ก่อมูลค่าเศรษฐกิจประเทศ เพราะคนส่วนใหญ่ที่ทำงานไม่มีทักษะอะไร การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศรายได้สูงจึงยาก และสุดท้ายจะกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้หรือไม่นั้น จะเห็นว่ารัฐบาลได้ยกมา เป็นประเทศที่ดีอยู่แล้ว เช่น สิงคโปร์ที่มีการคอร์รัปชันน้อยสุด ในขณะที่ประเทศไทยมีดัชนีชี้วัดการคอร์รัปชันสูงมาก
"ประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายที่ดี ไม่คอร์รัปชันจึงก่อให้เกิดความเสียหายไม่มาก แต่ประเทศที่กฎหมายอ่อนด้อย ต้องพึงระวังหายนะทางเศรษฐกิจ เช่น ฟิลิปปินส์ทำกาสิโนถูกกฎหมายมาก่อน และในยุคหลังเริ่มกำหนดกรอบใกล้เคียงกับที่ไทยจะทำ โดยระยะแรกจัดการโดยองค์กร แต่ช่วงหลังเริ่มให้ใบอนุญาต ซึ่งประเด็นที่สำคัญตามมาคือ คนในพื้นที่ต่อต้านแต่รัฐบาลไม่ฟัง เกิดปัญหาสังคมเศรษฐกิจ การคอร์รัปชันรุนแรง อีกทั้ง GDP ต่ำกว่าไทย ประชาชนในเมืองจะไม่ใช่ผู้เล่นหลัก รัฐบาลที่หวังดีที่มองการณ์ไกลจะไม่นำประชาชนไปติดการพนัน"
ทั้งนี้ หากจะยกตัวอย่างกาสิโนถูกกฎหมายของสหรัฐอเมริกา เมืองแอตแลนติส ที่มีความคล้ายไทย ทั้งหาดทรายสวย น้ำทะเลใส หวังเป็นแหล่งทำเงิน แต่พบว่าเมืองนี้มีปัญหาหลายอย่าง ทั้งพนันผิดกฎหมาย โสเภณี การคอร์รัปชัน จึงไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อพื้นที่ดังกล่าว รายได้เฉลี่ยต่ำ ความยากจนสูง แม้ข้อดีจะมีรายได้จากภาษีอสังหาริมทรัพย์ไปพัฒนาเยาวชนในพื้นที่ดังกล่าว แต่กลับพบว่าเยาวชนส่วนมากไม่สามารถจบการศึกษา อีกทั้งการพนันผิดกฎหมายก็ยังไม่หมดไป
"ประเด็นที่น่าเป็นห่วง มาตรา 11 ที่กำหนดคณะกรรมการนโยบายให้มีอำนาจในการเก็บภาษี ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าอัตราภาษีที่ต่ำ ในขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ 20-30% ซึ่งในประเทศพัฒนาแล้วเก็บภาษีถึง 60% เพื่อนำรายได้จากการทำกาสิโนต้องเข้าประเทศ ส่วนตัวมองว่ารัฐบาลจะทำกาสิโนถูกกฎหมายในไทยยังไม่ถึงเวลา เพราะไทยยังไม่พร้อมทั้งมิติสังคม เศรษฐกิจ และความยั่งยืน จึงขอฝากความหวังหากกฎหมายผ่านเข้าสภาฯ แล้วจะตีตกเพื่อเห็นประโยชน์ประเทศชาติ" ผศ.ดร.ชิดตะวัน กล่าว
ขณะที่ รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน กล่าวว่า ทุนชำระที่ 1 หมื่นล้านบาท ถือเป็นทุนใหญ่ที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเอาไปซ้อนไว้ครบวงจร แต่บัญชีแนบท้ายยังไม่ชัดเจนเป็นขนาดเล็กหมด แม้จะกำหนดข้อ 10 ที่ประกาศให้เพิ่มได้อีก ดังนั้น สุดท้ายก็ไม่รู้ว่ากาสิโนจะขนาดใหญ่หรือไม่ แทนที่จะกำหนดเป็นกฎหมายฉบับรอง
นอกจากนี้ การให้อำนาจซูเปอร์บอร์ด ที่ส่วนหลักเป็นข้าราชการ นักการเมือง นักวิชาการ และผู้เป็นคุณวุฒิ แต่ไม่สามารถเป็นอาจารย์ที่อยู่ในมหาวิทยาลัย จึงเป็นเอกชนที่ไม่มีต้นสังกัด จึงไม่เชื่อว่าจะมีส่วนภาคสังคมที่เข้าไปถ่วงดุลได้ ทำให้มิติการกำกับควบคุมหายไป และด้วยทั่วโลกให้ความสนใจด้านธรรมาภิบาล ไทยมีการวัดคะแนนตั้งแต่ปี 2538 ไม่เคยพ้นลำดับที่ 40 แม้ตั้งองค์กรปราบคอร์รัปชันก็ยังอยู่ที่เดิม
"การตั้งกาสิโนหากคนไทยเล่นจะสร้างต้นทุนทางสังคมมหาศาล ภาษีที่เก็บไม่พอ กฎหมายละเลยความเป็นจริง วาดฝันแต่ท่องเที่ยว เป็นคนที่อื่น อะไรที่เป็นผลกระทบจะถูกตัดทิ้ง อีกทั้งการเพิ่มปล่อยสินเชื่อยิ่งซ้ำเติม นักท่องเที่ยวจะบังคับหนี้อย่างไร เมื่อเขากลับไปแล้ว ประเทศต่างๆ พยายามไม่ให้คนในประเทศเล่น และในเอเชีย นักท่องเที่ยวสำคัญคือ จีนซึ่งมีกฎหมายเข้มงวด การจัดทัวร์ดึงทุนจีนมาเล่นไม่ใช่เรื่องง่าย" รศ.ดร.นวลน้อย กล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบถามความคิดเห็นคนในประเทศไทย พบว่า มากกว่า 50% ไม่เห็นด้วยกับกาสิโนถูกกฎหมาย อีก 30% เห็นด้วย และที่เหลือยังตัดสินใจไม่ได้ การรวบรัดทั้งหลายไม่น่าเป็นผลดี เหมือนกับที่เราเคยมีภาพจำบางพรรค คิดนโยบายเศรษฐกิจดี แต่กลายเป็นอับจนแต่ก็ต้องทำ ปัจจุบันสื่อว่ากาสิโนเสรี อยากบอกว่าไม่มีในโลกนี้เสรี จะมีแต่ถูกกฎหมายแต่ต้องกำกับดูแล
"ร่างพ.ร.บ.เดินมีจุดอ่อนอันใหม่เพิ่มจุดอ่อนขึ้นอีก ถ้าทำตกก่อนเข้าสภาก็จะดีมาก หากเรามีกาสิโนผิดกฎหมายเยอะ ต้องมาตั้งโจทย์ใหม่ แม้จะมีถูกกฎหมายที่ผิดกฎหมายก็ไม่หายไป ประเทศเพื่อนบ้านก็เห็นเยอะ จึงไม่ใช่คำตอบการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ จึงต้องช่วยกันโวยให้ดังๆ แม้นักการเมืองปัจจุบันจะไม่ฟังเสียงประชาชน แต่เราก็อย่าอยู่เฉย ไม่งั้นประเทศชาติจะอยู่อย่างไร" รศ.ดร.นวลน้อย กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์