ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 2% ก่อนประชุม OPEC+

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดล่วงหน้าพุ่งขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 73.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต พุ่งขึ้น 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 69.94 ดอลลาร์

รอยเตอร์สอ้างแหล่งข่าวในกลุ่มโอเปกพลัสว่า กลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งจะประชุมกันในวันพฤหัสบดีน่าจะตกลงกันขยายเวลา ลดการผลิตน้ำมันรอบล่าสุดออกไปจนถึงสิ้นไตรมาสแรกปีหน้า เพื่อดันราคาน้ำมันเพิ่มเติม

“ราคาน้ำมันดิบดูจะทรงตัวดี โดยผู้ค้ารอผลการประชุมกลุ่มโอเปกพลัส ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งผลการประชุมอาจกำหนดทิศทาง ก่อนสิ้นปี” โอเล่ แฮนเซน นักวิเคราะห์จากธนาคาร Saxo Bank กล่าวกับรอยเตอร์ส

การผลิตของกลุ่ม OPEC+ ซึ่งคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของการผลิตน้ำมันทั่วโลกกำลังมองหาวิธีที่จะค่อยๆยุติการลดกำลังการผลิตจนถึงปี 2025

   อย่างไรก็ตาม แนวโน้มที่ตลาดน้ำมันจะมีน้ำมันล้นตลาดได้ กดดันให้ราคาน้ำมันลดลง โดยราคาน้ำมันเบรนท์ซื้อขายต่ำ กว่าค่าเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2023 เกือบ 6%

“เมื่อพิจารณาถึงการปฏิบัติตามการลดการผลิตของรัสเซีย คาซัคสถาน และอิรัก ระดับราคาน้ำมันเบรนท์ที่ลดลง และข้อบ่งชี้ในรายงานข่าว เราคาดว่าการลดกำลังการผลิตของ OPEC+ จะขยายออกไปจนถึงเดือนเมษายน” นักวิเคราะห์ของ ธนาคารโกลด์แมน แซคส์กล่าวในบันทึก

“ฉันคิดว่าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเลื่อนออกไป” ปริยัง กา สัจเทวะนักวิเคราะห์อาวุโสของบริษัทนายหน้าค้าหลัก ทรัพย์ Phillip Nova กล่าว พร้อมเสริมว่าแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น จากประเทศผู้เข้าร่วมในการเพิ่มการผลิตอาจทำให้การขยาย เวลาออกไปจำกัดอยู่สองสามเดือน

นักวิจัยและนักวิเคราะห์กล่าวว่าแนวโน้มความต้องการน้ำมัน โลกยังคงอ่อนแอ โดยการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนมีแนวโน้ม ที่จะถึงจุดสูงสุดในต้นปีหน้า เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิง สำหรับการขนส่งเริ่มลดลง ซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก คาดว่า จะลดราคาน้ำมันดิบสำหรับผู้ซื้อในเอเชียลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบอย่างน้อย 4 ปี ตามการคาดการณ์ของบรรดานักลงทุน

 ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมยังส่งผลให้การขึ้นของราคาน้ำมันถูกจำกัดด้วยเช่นกัน