'โรงเรียนดรุณวิทยา' คว้ารางวัลสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี จาก 'เอไอเอ'
"โรงเรียนดรุณวิทยา" คว้ารางวัลชนะเลิศโครงการ "สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี-AIA Healthiest Schools" ปีที่ 1 จาก "เอไอเอ" ซึ่งตรงกับเป้าหมาย 4 เสาหลักของโครงการ นั่นคือ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ใช้ชีวิตกระฉับกระเฉง มีสุขภาพใจที่ดี และดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน
โรงเรียนดรุณวิทยา จังหวัดน่าน สังกัดเทศบาลเมืองน่าน (บ้านสวนตาล) มีนักเรียนตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงป.6 จำนวน 224 คน มากกว่า 10 ปี ที่โรงเรียนได้เริ่มโครงการในการส่งเสริมการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตของนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกผัก คัดแยกขยะสร้างมูลค่า ความรอบรู้ในการเลือกทานอาหาร การออม รวมถึงนำประเพณีวัฒนธรรมของจังหวัดอย่างการแข่งเรือมาผนวกกับกิจกรรมการออกกำลังกาย เพื่อให้เด็กๆ ได้ดูแลสุขภาพกายใจไปพร้อมๆ กัน ด้วยความเชื่อที่ว่าหากเด็กได้เรียนรู้ตั้งแต่ช่วงวัยดังกล่าว จะหล่อหลอมให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ กิจกรรมต่างๆ จึงได้ถูกบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอนจนคว้ารางวัลระดับประเทศมามากมาย
AIA กับสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี
"โรงเรียนดรุณวิทยา" คว้ารางวัลชนะเลิศในโครงการ "สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools" ปีที่ 1 ทั้งในระดับประเทศ รางวัล 3.6 แสนบาท และระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รางวัล 1.8 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 2.16 ล้านบาท ถือเป็นโรงเรียนต้นแบบในการส่งเสริมและสนับสนุนนักเรียน ครู ผู้ปกครอง รวมถึงชุมชนรอบข้างให้ตื่นตัวเรื่องของการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ โภชนาการ ตลอดจนดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เอไอเอ ประเทศไทย เดินทางไปจังหวัดน่าน เพื่อจัดพิธีมอบรางวัลแก่โรงเรียนผู้ชนะเลิศในโครงการฯ ปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ พร้อมมอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และจอมอนิเตอร์จำนวน 30 ชุด แท็บเล็ต 30 เครื่อง ให้แก่โรงเรียน รวมทั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับใช้ในห้องเรียน เพื่อสนับสนุนโครงการโรงเรียนปลอดฝุ่น และมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนจำนวน 10 ทุน ตามเป้าประสงค์ของโรงเรียนที่ต้องการนำเงินรางวัลมาพัฒนาต่อยอดการเรียนรู้เด็กๆ ต่อไป
นวพรรณ อินต๊ะวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณวิทยา กล่าวว่า ทุกเรื่องที่ทำ ไม่ได้ทำแค่วันสองวันหรือปีเดียว แต่เราทำมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี ซึ่งสอดคล้องเป้าหมาย 4 เสาหลักของโครงการ คือ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง การมีสุขภาพใจที่ดี รวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ผ่านการมีส่วนร่วมทั้งเด็ก ครู และชุมชน สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนายั่งยืน Sustainable Development Goals หรือ SDGs เป้าหมายที่ 3 สร้างหลักประกันการมีสุขภาวะที่ดี และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกช่วงวัย
4 เสาหลัก สู่ชัยชนะระดับภูมิภาค
สำหรับกิจกรรมเป้าหมาย 4 เสาหลัก ที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ โรงเรียนดรุณวิทยา ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาค มีกิจกรรมที่มีความสร้างสรรค์ ดังนี้
- การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ความสำคัญกับอาหารกลางวัน โดยใช้เมนูจาก Thai School Lunch สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เน้นวัตถุดิบอินทรีย์ที่ปลูกเองในโรงเรียนและจากเกษตรกรท้องถิ่น โดยได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ชุมชน เทศบาลเมืองน่าน รวมถึงให้ความรู้การเลือกรับประทานอาหาร ขนมกรุบกรอบทานได้แต่ต้องอ่านฉลากให้เป็น
- การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง มีกิจกรรมล่องไลฟ์สไตล์น่าน เริ่มตั้งแต่ "ล่องฮู้" ให้ความรู้เด็กๆ เชื่อมโยงกับ กรมอนามัย ในโปรแกรมเด็กล้านนาไม่อ้วน ติดตามภาวะโภชนาการ ถัดมาคือ "ล่องมีแฮง" เน้นการออกกำลังกายโดยประยุกต์แข่งเรือ ประเพณีเมืองน่านมาเป็นเกมการละเล่นที่เด็กๆ ชอบ สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ และออกกำลังกายทุกเช้าเป็นเวลา 5-10 นาที
- การมีสุขภาพใจที่ดี เป็นโรงเรียนวิถีพุทธที่มีการพัฒนาเรื่องสุขภาพจิต สมาธิ มีกิจกรรมทางกายส่งเสริมสุขภาพจิต ทุกวันอังคารทุกคนในโรงเรียนจะใส่ชุดสีขาว นั่งสมาธิ 5 นาที ก่อนเข้าเรียนและกลับบ้าน รวมถึงกิจกรรมตักบาตรทุกวันอังคาร มีคูปองความดี สามารถแลกขนมได้
- การดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน เป็นโรงเรียนต้นแบบ Zero Waste School มีการจัดการขยะครบวงจร ศูนย์การเรียนรู้ 3R พาพอเพียง จัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ห้ามนำพลาสติกและขนมกรุบกรอบเข้ามาในโรงเรียน เด็กจะต้องนำกล่องและแก้วน้ำส่วนตัวมาใส่ขนมและน้ำที่ซื้อจากสหกรณ์ มีถังน้ำหมักเศษอาหารสำหรับนำไปรดน้ำต้นไม้และทำแก๊สชีวภาพ รวมถึง Smart Farming ใช้โซลาร์เซลล์ควบคุมระบบน้ำ ทำบรรยากาศโรงเรียนให้เป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้
"สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ หากวิชาการเก่งแต่สุขภาพไม่แข็งแรง เด็กก็ไม่สามารถไปสู่เป้าหมายได้ ดังนั้น วิชาการกับสุขภาพต้องมาควบคู่กัน และหากปลูกฝังในวัยเด็กก็จะสามารถใช้ชีวิตในช่วงวัยที่เติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ โรงเรียนดรุณวิทยา พร้อมที่จะเป็นเครือข่าย แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับโรงเรียนอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป" ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณวิทยา กล่าว
โครงการ "สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี - AIA Healthiest Schools"
โครงการ สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี-AIA Healthiest Schools ริเริ่มขึ้นในปี 2565 นับเป็นพันธกิจของ เอไอเอ ในการสนับสนุนให้ผู้คนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นภายในปี 2573 ตามคำสัญญา Healthier, Longer และ Better Lives โดยมีโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเข้าร่วมโครงการกว่า 213 แห่งทั่วประเทศ และกว่า 65 โรงเรียน ที่ส่งผลงานเข้าประกวด โดยได้รับความร่วมมือจากกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) โดยมีเป้าหมายให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาพและชีวิตที่ดี เน้นหลักสำคัญ 4 ประการ คือ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง มีสุขภาพใจที่ดี และการดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน เพราะ AIA เชื่อว่า การส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีต้องเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก โดยโครงการนี้จะสามารถช่วยสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนและสังคมต่อไป
ต่อยอด สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี AIA Healthiest Schools ปีที่ 2
นิคฮิล แอดวานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า ในนาม เอไอเอ ประเทศไทย ขอแสดงความยินดีกับ โรงเรียนดรุณวิทยา ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาเยี่ยมชมและมอบรางวัลให้แก่โรงเรียน พร้อมทำกิจกรรมกับคณะครู นักเรียน และผู้ปกครอง รวมถึงคนในชุมชน เพื่อแสดงให้เห็นเป็นต้นแบบของ สุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี
"โครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี-AIA Healthiest Schools จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้โรงเรียนได้เริ่มส่งเสริมให้เด็กเรียนรู้คุณค่าของการมีสุขภาพที่ดี การใช้ชีวิตที่ส่งเสริมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องถ่ายทอดให้กับเด็กๆ เพราะพวกเขาจะเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป"
รพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า หลังประสบความสำเร็จในปีที่ผ่านมา AIA ยังสานต่อโครงการสุดยอดโรงเรียนสุขภาพดี-AIA Healthiest Schools ปีที่ 2 และหวังว่าประเทศไทยจะสามารถคว้ารางวัลระดับภูมิภาคได้อีกครั้ง อยากเชิญชวนโรงเรียนทั่วประเทศที่สนใจทั้งระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ลงทะเบียนเข้าร่วมและดาวน์โหลดสื่อการเรียนการสอนทั้งหมดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ ที่นี่ เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท อีกทั้งยังได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในระดับภูมิภาคเอเชีย เพื่อชิงรางวัลใหญ่มูลค่าถึง 3.5 ล้านบาท
สำหรับโรงเรียนที่สนใจ สามารถส่งผลงานเพื่อเข้าร่วมแข่งขันได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 8 มีนาคม 2567 โดยโครงการจะประกาศรายชื่อโรงเรียนที่ได้รับรางวัลผ่านทางเว็บไซต์ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567