CKPowerมุ่งNET ZERO EMISSION 2050เฟ้นเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ารักษาสิ่งแวดล้อม

CKPowerมุ่งNET ZERO EMISSION 2050เฟ้นเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ารักษาสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขทางที่ต้องดูแลโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความจำเป็น และเร่งด่วนมากขึ้นในส่วน“ภาคธุรกิจผลิตไฟฟ้า”ที่มีภาระป้อนพลังงานไฟฟ้าให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคนั้น กำลังเผชิญเงื่อนไขที่ว่า

ไฟฟ้านั้นต้องผลิตจากพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดซึ่งธุรกิจที่ปรับตัวและมีบทบาทนำในเรื่องนี้อย่างบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์องค์กรที่ต่ำที่สุดในอาเซียน จะมาแบ่งปันประสบการณ์ที่น่าสนใจนี้ 

ธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP 26) รวมถึงแผนนโยบายของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) นั้น

CKPower ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและมีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่งของภูมิภาค พร้อมเดินตามเป้าหมายการเติบโตในด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและวางรากฐานด้านความมั่นคง ทางพลังงาน ตลอดจนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ที่สามารถหวังผลในระยะยาวอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593)

CKPowerมุ่งNET ZERO EMISSION 2050เฟ้นเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ารักษาสิ่งแวดล้อม

CKPowerมุ่งNET ZERO EMISSION 2050เฟ้นเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ารักษาสิ่งแวดล้อม

 

 

ปัจจุบันCKPower ได้มีการขับเคลื่อนแผนการดำเนินงาน CKP NET ZERO EMISSION 2050 ด้วยการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางการสร้างความยั่งยืนและสมดุลให้กับโลก เริ่มต้นจากการบริหารจัดการ ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Risk Management) ตั้งเป้าหมายลดการ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกกระบวนการผลิต และให้ความสำคัญในทุกโรงไฟฟ้าที่บริษัทเข้าไปลงทุน โดยเลือกใช้เทคโนโลยีระดับสูงเพื่อให้เกิดเสถียรภาพของระบบการจ่ายไฟฟ้าให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รวมถึงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพให้กับบุคลากรทุกระดับ ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาระบบการปฏิบัติงานเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยต่อยอดระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เตรียมความพร้อมนำกลไกการกำหนดราคาคาร์บอนสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก (Green Finance) ให้กับองค์กร เป็นที่น่าภูมิใจที่ CKPower ได้ผ่านการรับรองให้เป็นองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization) จากคณะกรรมการเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย ในการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย จัดโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เมื่อเดือนส.ค. 2565 ที่ผ่านมา

CKPowerมุ่งNET ZERO EMISSION 2050เฟ้นเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ารักษาสิ่งแวดล้อม

CKPowerมุ่งNET ZERO EMISSION 2050เฟ้นเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้ารักษาสิ่งแวดล้อม

อีกหนึ่งความก้าวหน้าล่าสุดคือ “โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น” บริษัทในเครือของ CKPower ผ่านเกณฑ์สำคัญคือ Carbon Footprint Product (เครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ที่ทำการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของผลิตภัณฑ์ได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การใช้งาน และการกำจัดซากผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน โรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มุ่งเน้นการจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย และจำหน่ายไฟฟ้าส่วนที่เหลือและไอน้ำ ให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม

CK Power ยังได้กระตุ้นการมีส่วนร่วมของพนักงานทั้งในไทยและ สปป.ลาว ผ่านชุดยูนิฟอร์มใหม่ ‘CKPower Cool Mode’ ด้วยผ้า “Cool Mode” (ผ้าอนุรักษ์โลก) ที่มีนวัตกรรมโดดเด่น ด้วยคุณสมบัติพิเศษ ในการซับเหงื่อและระบายความร้อนได้ดี ให้ความเย็นสบายในขณะที่สวมใส่อยู่ในห้องอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด รีดง่าย ช่วยลดการใช้กระแสไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้า และยังมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบให้ดูทันสมัย ซึ่งชุดยูนิฟอร์ม CKPower Cool Mode นี้ได้รับเกียรติบัตรรับรองการเป็นองค์กรลดโลกร้อน จากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทออีกด้วย นับว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นในการตอกย้ำภารกิจสำคัญที่มุ่งสู่ CKP NET ZERO EMISSION ผ่านการร่วมแรงร่วมใจของผู้บริหารและพนักงานทุกระดับ

นอกจากนี้ CKPower ยังบรรลุความสำเร็จตามแผนงานที่วางไว้ คือ การเข้าร่วมเป็น Task Force on Climate-Related Financial Disclosures (TCFD) Supporter หรือเป็นผู้สนับสนุนมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูล ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศในหมวด Electric Utilities เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจและความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยร่วมแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เป็นวาระเร่งด่วนในระดับชาติและระดับโลก เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสอดคล้องไปกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่เป้าหมายสำคัญของการลดคาร์บอนอย่างแท้จริง

“CKPower ให้ความสำคัญในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ ลูกค้าที่มุ่งสู่เทรนด์พลังงานสะอาด รักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนมีความมุ่งมั่นในการ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการหยุดยั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมการดำเนินงานทุกขั้นตอน และ ร่วมยกระดับมาตรฐานทางด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศ สู่การเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน”

ปัจจุบัน CKPower มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอยู่ประมาณ 89% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด และตั้งเป้าว่าภายในเวลา 5 ปี จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 95% ตลอดจนหันมาใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรอย่างเต็มกำลัง อาทิ การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) การเปลี่ยน หลอดไฟฟ้าภายในอาคาร ที่อยู่อาศัย และโรงไฟฟ้าในเครือเป็นหลอด LED ประหยัดพลังงาน รวมถึงลดปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง