เศรษฐกิจแบบเก่าตาย เศรษฐกิจยุคใหม่อย่าง "SUSTAINOMY” เข้ามาแทนที่

ปิยะชาติ อิศรภักดี ผู้บริหารสูงสุด BRANDi and Companies กล่าวในงาน Economist Impact's 3rd annual Sustainability Week Asia ว่า แม้ระบบเศรษฐกิจปัจจุบันจะสร้างผลประโยชน์มากมายให้กับประชาชน ผลประโยชน์เหล่านั้นไม่สามารถเทียบได้เลยกับผลเสียที่ระบบเศรษฐกิจสร้างขึ้น อย่าง ความไม่เป็นธรรมในการกระจายความมั่งคั่ง สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนที่ย่ำแย่ลง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ไม่ยั่งยืน จึงเป็นที่มาของแนวคิดใหม่อย่าง “Sustainomy” ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งสร้างนิยามใหม่ของระบบทุนนิยมที่ให้ความสำคัญไม่เพียงแต่กับผลตอบแทนทางการเงิน แต่รวมถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมด้วย

ความเชื่อมโยงระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ และสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นประเด็นที่จะได้รับความสำคัญ ภายใต้ระบบเศรษฐกิจใหม่อย่าง “Sustainomy”

โดยหลักสำคัญ 3 ประการของ “Sustainomy” ได้แก่

• เติบโตมากกว่าผลกำไร : ขยายคำจำกัดความของการเติบโตให้ครอบคลุมไม่เพียงแต่ด้านการมั่งคั่ง (Prosperity) แต่รวมถึงยังรวมถึงความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน (People) และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม (Planet) ด้วย

• สร้างพอร์ตโฟลิโอที่สมดุล: ส่งเสริมองค์ประกอบของเศรษฐกิจที่มีความสมดุล โดยมีสัดส่วนของอุตสาหกรรมที่มีมาอยาวนานและมีความมั่นคง (เศรษฐกิจจริง  Real Sector) และอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมนวัตกรรม แต่มีความผันผวน (เศรษฐกิจเสมือน Virtual Sector) ที่เหมาะสม
• เสริมความแข็งแกร่งให้กับ “ตรงกลาง”: ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของประเทศกำลังพัฒนา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และกลุ่มชนชั้นกลาง ในการขับเคลื่อนทางออกใหม่ที่ยั่งยืน

โดยเศรษฐกิจใหม่นั้น ยึดถือความยั่งยืนจากผลประโยชน์ของเศรษฐกิจปัจจุบันและเติบโตจากสิ่งใหม่ ซึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจทำให้แน่ใจ ผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายจาก ทรัพยากรทั่วโลกมีจำกัดในขณะที่ไม่จากไป เบื้องหลังความจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพความเจริญรุ่งเรือง การสร้างจากทรัพยากรเหล่านี้อยู่กระบวนทัศน์พื้นฐานเปลี่ยนไปภายในความยั่งยืน

ทั้งนี้ ความร่วมมือ คือปัจจัยสำคัญ โดยทั้งภาคองค์กรและตลาด ต้องเปลี่ยนแปลงตามเศรษฐกิจภาพใหญ่ จึงจะนำมาซึ่งเศรษฐกิจใหม่ที่แท้จริง และสามารถสร้างประโยชน์ให้กับทุกคน