เปิดแนวทาง เปลี่ยนพลังงานสะอาด การผลิต-ขนส่ง ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แนวทาง เปลี่ยนพลังงานสะอาดใการผลิต-ขนส่ง ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากผู้พัฒนานวัตกรรมกรีนสู่การนำไปใช้จริงสร้างธุรกิจให้เติบโตเพื่อความยั่งยืนมากขึ้น
อัจฉราภรณ์ เพ็งชัยเจริญ นักวิจัย SCGC กล่าวว่า พลาสติกทุกคนพลาสติกใช้อยู่ในปัจจุบันมีประโยชน์มากมายเพราะพลาสติกมีความแข็งความเหนียวน้ำหนักเบาสามารถขึ้นรูปได้มากมายไม่ว่าจะเป็นการขึ้นรูปเป็นท่อขนาดขนาดใหญ่รับแรงดันได้ดีแต่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
สามารถขึ้นรูปเป็นรถได้แข็งแรงราวกับเหล็กกล้า แต่มีน้ำหนักที่เบาแล้วก็ปลอดภัยด้วย เซฟพลังงานด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สะอาดแล้วก็ปลอดเชื้อโรค ที่สำคัญคลาสสิคก็ยังเป็นแพคเกจจิ้งห่ออาหาร แถมยังเก็บกลับเข้ามาอย่างยาวนานด้วยแต่ก็ต้องรู้จักควบคุมดูแลเพื่อไม่ก่อให้เกิดโทษและใช้ประโยชน์จากพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถควบคุมพลาสติกเพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมา
โดยเป้าหมายของ SCGC ร่วมกันกับพัดเนอร์เพื่อหาโซลูชั่นทำให้พลาสติกมีประโยชน์สูงที่สุดในขณะเดียวกันก็ต้องควบคุมพลาสติกอีกด้วยซึ่งเทคนิคง่ายๆ คือ 1.การแยกขยะเริ่มจากใช้ให้คุ้มเพราะพลาสติกมีแข็งแรงมากๆ ก่อนที่จะทิ้งพลาสติกต้องใช้คุ้มค่าที่สุดก่อน 2. แยกขยะให้เป็น เพราะว่าการแยกพลาสติกทำให้นำพลาสติกกลับไปบริหารจัดการต่อได้ง่ายและทิ้งให้เป็นที่ให้ทิ้งพลาสติกให้ถูกที่ไม่ทิ้งลงข้างทางหรือทิ้งลงมหาสมุทร
เพราะว่าการถ้าสมมุติว่าเราไม่แยกขยะพลาสติกหลายชนิดมารวมกันนับว่าพลาสติกจะครัวเรือนอาจจะปนปนกับกคนกับกลับสีคนกับสิ่งปนเปื้อนต่างๆและพลาสติกต่างๆเหล่านี้รีไซเคิลจะต้องต้องใช้พลังงานที่สูงมากอาจจะต้องแยกหรือว่าอาจจะต้องใช้สารเคมีเพื่อทำให้พลาสติกสะอาดขึ้นแล้วก็คุณภาพดีตามเดิม แต่ว่าถ้าหากเราช่วยกันพลาสติกออกจากพลาสติกเหล่านี้จะถูกตัดประเภทแล้วก็นำมาใช้กระบวนการที่ไม่ซับซ้อน เช่นเอามาบดแล้วสามารถ นำกลับไปใช้ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์
ตัวอย่างของ SCGC ที่ทำร่วมกับ โฮมโปรคือโครงการแรกเก่าเพื่อโลกใหม่ที่นำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้แล้วสามารถนำตู้เย็นไปแลกเป็นส่วนลดกับโฮมโปรเพื่อซื้อเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่ได้ ซึ่งพลาสติกต่างๆเหล่านี้ก็จะนำมาให้กับ SCG จะนำมาทำให้พลาสติกเกิดขึ้นมาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้วก็นำพลาสติกเหล่านี้ไปขึ้นรูปเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกครั้งนึง
และ SCG จับมือกับบริษัทผู้นำด้านการผลิตพลาสติกโชว์ภาพจากประเทศบราซิลทำการเปลี่ยนอ้อยเป็นเอทานอลจากนั้นมาแปลงเป็นเอทิลีน มาผลิตเป็นพลาสติกชีวภาพภายใต้แบรนด์แอมกรีนซึ่งเป็นพลาสติกจากอ้อยที่รักโลกลดการปล่อยคาร์บอนและสามารถมีประสิทธิภาพสูง
การแปลงคาร์บอนมาเปลี่ยนเป็นพลาสติก โดยการตรึงคาร์บอนในอากาศและวิธีการทางไฟฟ้าและเคมี จนได้พลาสติกชื่อว่า พอลิเมอร์ PLGA ซึ่งเป็นพลาสติกประเภทเดียวกับไหมละลาย มีคุณสมบัติพิเศษสมารถย่อยสลายเองได้ ละลายในน้ำได้และต่านการผ่านของออกซิเจนได้อย่างดีมาก สามารถใช้ในวงการแพทย์และสามานำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย
อาคิรา ชุปวา และ กัญชณหงส์ สิริจีรพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการขายเอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ กล่าวว่า เป้าหมายในการที่จะเป็นในการสนับสนุนของลูกค้าให้มีความยั่งยืนและมุ่งสู่การที่คาร์บอนรวมถึงการใช้พลังงานสะอาด ไม่ว่าจะเป็นการใช้โซล่าฟาร์ม และพัฒนาระบบ Smart Grid เครือข่ายอัจฉริยะจัดการพลังงานสะอาด เพื่อการซื้อ-ขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้อย่างง่าย โดยมุ่งเน้นไปยังภาคอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างลูกค้านิคมอุตสาหกรรม โรงงาน และหมู่บ้านจัดสรร และคาดว่าจะใช้พลังงานสะอาดมากกว่า 5,000 เมกะวัตต์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานสำหรับอนาคตทั้งพลังงานทดแทน
โซลูชันนี้ ช่วยประหยัดค่าไฟ 5-10% คุ้มค่ามากขึ้น เพราะสามารถเลือกใช้แหล่งพลังงานที่คุ้มค่าในเวลาที่ต้องการ อักทั้งยังสร้างการมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก ด้วยการทำให้ทุกคนเข้าถึงพลังงานสะอาดอย่างสะดวกสบาย จากการเลือกใช้แหล่งพลังงานที่คุ้มค่าในเวลาที่ต้องการ รวมถึงบริการซื้อขายคาร์บอนเครดิต สะดวกในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยลดภาวะโลกร้อน มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย ผู้บริหาร DHL กล่าวว่า ความยั่งยืนของ DHL Express มีเป้าหมายการดําเนินงานที่สะอาดเพื่อการปกป้องสภาพอากาศมีเป้าหมายมากกว่า 30% การผสมเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน ภายในปี 2030 โดยใช้น้ำมัน SAF คือน้ำมันพืชหรือน้ำมันปาล์มใช้แล้วนำไปกลั่นใหม่แล้วก็เอามาผสมกับน้ำมันเครื่องนะครับในสัดส่วนประมาณ 70-30 เป็นน้ำมันปกติ 70 ผสม 30 จะสามารถลดจำนวนสารคาร์บอนที่ปล่อยออกมาได้ประมาณ 80% โดยเฉลี่ย
แต่ปัจจุบันปัญหาก็คือ SAF นั้นมีราคาสูงกว่าน้ำมันเครื่องปกตินะครับประมาณ 1.5 ถึงสองเท่า นอกจากนี้ DHL ยังมีการใช้รถไฟฟ้าเป็น 60% ของยานพาหนะและเพิ่มส่วนแบ่งเชื้อเพลิงที่ยั่งยืนใน line-haul เป็นมากกว่า 30% ภายในปี 2030 และในปี 2021 มีออกแบบที่เป็นกลางคาร์บอนสําหรับอาคารใหม่ทั้งหมด และเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสําหรับผลิตภัณฑ์โซลูชันหลักทั้งหมดได้อย่างยั่งยืน