'ห้องเรียนกลางแจ้ง' เปลี่ยนพื้นที่ว่าง สู่แปลงเกษตรอินทรีย์
พาไปรู้จัก “โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย” จากแนวคิดของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และภรรยา (วัลลีย์ ปราสาททองโอสภ) ที่อยากจะเปลี่ยนพื้นที่ว่างใกล้สนามบิน กว่า 1,000 ไร่ ให้เกิดประโยชน์กับชุมชน สู่แปลงเกษตรอินทรีย์และห้องเรียนกลางแจ้ง
KEY
POINTS
- “โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย” ที่เกิดขึ้นหลังจากการก่อสร้างสนามบินสุโขทัย จากแนวคิดของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และภรรยา ที่อยากจะเปลี่ยนพื้นที่ว่าง 1,000 ไร่ ให้เกิดประโยชน์กับชุมชน
- พัฒนาสู่แปลงเกษตรอินทรีย์ เริ่มจากการปลูกข้าว พืชยืนต้น พืชผัก มาสู่การเปิดร้านอาหา ร "ครัวสุโข" ที่ใช้วัตถุดิบจากแปลงผัก
- นอกจากนี้ ยังเปิดให้คนที่สนใจ ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ เข้ามาเรียนรู้ วิถีชีวิต ผ่าน “ห้องเรียนกลางแจ้ง” ครบวงจรในที่เดียว
“สุโขทัย” จังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดแพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร ตาก และลำปาง มีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านคือแม่น้ำยม เป็นที่ตั้งอาณาจักรของชนชาติไทยเมื่อกว่า 700 ปีที่ผ่านมา คำว่า "สุโขทัย" มาจากคำสองคำคือ "สุข+อุทัย" มีความหมายว่า "รุ่งอรุณแห่งความสุข"
นับเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวแบบเมืองเก่า และความสวยงามของธรรมชาติ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ที่แวะเวียนมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวสุโขทัยและวัฒนธรรมอันสวยงาม และหนึ่งในจุดเช็กอิน ที่ไม่ควรพลาด คือ “โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย” ที่เกิดขึ้นหลังจากการก่อสร้างสนามบินสุโขทัย
สนามบินสุโขทัย เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2535 บนเนื้อที่ 1,018 ไร่ ตั้งอยู่ในเขต 3 ตำบล คือ ต.ท่าทอง ต.คลองกระจง และ ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2539 เส้นทางกรุงเทพฯ-สุโขทัย-เชียงใหม่ โดยเครื่องบินแบบ ATR 72-500 ความจุ 70 ที่นั่ง
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือที่เราคุ้นเคยกับ “สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส” เปิดสนามบินสุโขทัย และได้รับความร่วมมือจาก บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด มาเป็นผู้ดูแลด้านการควบคุมการจราจรทางอากาศ อีกทั้ง ได้รับอนุญาตให้เป็นสนามบินศุลกากร ประกอบกิจการเดินอากาศแบบประจำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เดินทางที่ประสงค์จะเดินทางจากสุโขทัยไปยังต่างประเทศ หรือจากต่างประเทศมายังสุโขทัย ก่อนหน้านี้มีการเปิดเส้นทางการบิน กรุงเทพฯ-สุโขทัย-หลวงพระบาง และหลวงพระบาง-สุโขทัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 'NRF' สร้างความยั่งยืน 'ต้นน้ำ' สู่ความยั่งยืน 'ระบบอาหาร'
- หนีเมืองกรุงมุ่งหาธรรมชาติ เปลี่ยน Passion เป็นโอกาสสร้าง เขาใหญ่ผักสะอาด
เกษตรอินทรีย์ จากพื้นที่ว่างเปล่า
“โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย” เกิดขึ้นหลังจากมีการก่อตั้งสนามบิน จากแนวคิดของ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ และภรรยา (วัลลีย์ ปราสาททองโอสภ) ที่อยากจะเปลี่ยนพื้นที่ว่างใกล้สนามบิน กว่า 1,000 ไร่ ให้เกิดประโยชน์กับชุมชนในพื้นที่ จึงเกิดโครงการนี้ขึ้น ในปี 2550 โดยการกั้นคันน้ำ เพี่อทำเกษตรอินทรีย์
“ศุทธาวดี เจริญรัถ” ผู้จัดการโครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า เริ่มแรกปลูกข้าวอย่างเดียว โดยการคัดพันธุ์ข้าว และผสมพันธุ์ข้าวเอง เน้นพันธุ์ข้าวสี โดยปลูกทุก 4 เดือน ปีละ 2 ครั้งอย่างต่ำ หลังจากนั้น จึงเพิ่มการปลูกพืชยืนต้น มะม่วง มะยงชิดกว่า 1,000 ต้น และขยายมาสู่การปลูกผัก เกิดเป็นร้านอาหาร “ครัวสุโข” แปรรูปสิ่งที่มีในแปลงเกษตรอินทรีย์เป็นอาหาร รวมถึงการแปรรูปผลผลิต เช่น กล้วย เป็นต้น
“ครัวสุโข มีอาหารบางอย่างที่หาทานได้ยาก เช่น แกงสายบัว เพราะเรามีสายบัวในนา รวมถึง มีไข่เป็ดต้มยางมะตูม จากเป็ดที่เลี้ยงในนา ได้ทานไข่สดทุกวัน ร้านอาหารเปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ปิดเพียงปีละ 6 วันในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนมาก นอกจากนี้ ที่นี่ยังกำหนดให้ทุกวันที่ 5 จะมีการนิมนต์พระมารับบาตร พนักงานทุกคนจะมาร่วมกันใส่บาตรในทุกๆ เดือน”
ห้องเรียนกลางแจ้ง
โครงการเกษตรอินทรีย์ เปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ ที่มีคนทำงานซึ่งเป็นคนในพื้นที่รวมกว่า 78 คน ข้าว ผัก ผลไม้ คัดด้วยมือทั้งหมด รวมถึง การเปิดร้านอาหารและเปิดให้คนมาเยี่ยมชม เรียนรู้ ลองทำนา เป็นโปรแกรมทัวร์ “ห้องเรียนกลางแจ้ง” ใช้เวลาครึ่งวันทำกิจกรรมการเกษตรและทานอาหาร
โดยมีห้องพักบริการ 15 ห้อง และบริเวณใกล้เคียงอีก 2 โรงแรม คือ สุโขทัย เฮอริเทจ และ สบาย สบาย สุโขทัย รวมถึงพิพิธภัณฑ์ของเปิดให้ชม เมื่อมีการติดต่อล่วงหน้า เรียกว่าครบวงจรในที่เดียว รวมถึงอยู่ระหว่างขยายไปยังการปลูกสมุนไพร ทำยาหอม ของ ปราสาททองโอสถ และขยายไปให้ชาวบ้านปลูกเพื่อส่งให้บริษัทฯ อีกด้วย
“คุณหมอพยายามใช้พื้นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชน รวมถึงการให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ ใครอยากมาเรียนรู้สามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ทุกอย่าง รวมถึง เปิดให้เด็กนักเรียนมาดูงาน เรียนรู้ และ ชมสวนสัตว์ แวะชมเกษตรอินทรีย์"
"สิ่งที่เราทำ ทั้งปลูกผัก ทำเกษตร เป็นวิถีชีวิตของคนในชุมชน เราไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากชีวิตปกติของคนทั่วไป เป็นประสบการณ์ให้คนจากต่างถิ่น และ ต่างชาติได้เข้ามาสัมผัสเรียนรู้ เช่น ชาวเยอรมัน เขาได้มาทานข้าวและร่วมโปรแกรมห้องเรียนธรรมชาติ ได้นั่งรถอีแต๋น ทานอาหารท้องถิ่นของไทย เหมือนมาบ้านที่ใหญ่และมีคนจำนวนมากอยู่ด้วยกัน”
โครงการเกษตรอินทรีย์ นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงองค์ความรู้ เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ของสนามบิน จึงเดินทางมาได้ง่าย เปิดให้เข้าชมได้หลายโซน เช่น โรงสีข้าว, แปลงนาปู่ย่าตายาย, แปลงนาสวนผสม, และนาบัวบึงหงส์ และยังมีบริการที่พักแบบโฮมสเตย์ และห้องเรียนกลางแจ้ง สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้วิถีชีวิตแบบเกษตรอินทรีย์ ในช่วงหน้าฝน จะได้เห็นเหล่าพืชพรรณมากมายแตกยอดอวดโฉมความสดใหม่ พร้อมอากาศเย็นสบายเหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกช่วงวัย เวลาทำการ: 8:00–17:00 น.