มองคำมั่นสัญญาการประชุม COP29 ณ เมืองบากู
การประชุม COP29 ณ เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายนจบลงด้วยการให้คำมั่นสัญญาของประเทศก้าวหน้าซึ่งไม่มีผลบังคับใช้ พร้อมกับไม่เอ่ยถึงประเด็นสำคัญ ๆ ส่งผลให้การยับยั้งมิให้โลกร้อนขึ้นจนมนุษย์อยู่ยากน่าจะล้มเหลวแน่นอน
การประชุมว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติครั้งที่ 29 (COP29) จบลงแบบนั้นไม่เป็นที่น่าแปลกใจ คอลัมน์นี้ได้คาดการณ์ไว้ก่อนแล้วเนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่าน ๆ มาจบลงในแนวเดียวกัน
เมื่อมีการพิจารณาว่าประเทศก้าวหน้าควรจะใช้เงินทุนเท่าไรเพื่อบรรลุเป้าหมายของการยับยั้งมิให้โลกร้อนขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับเมื่อก่อนเริ่มการปฏิวัติอุตสาหกรรม
นอกจากนั้น การที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และนักการเมืองในหลายประเทศที่ไม่เชื่อว่าภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นเพราะกิจกรรมของมนุษย์ชนะการเลือกตั้งบ่งชี้ว่า สหรัฐอเมริกาและประเทศเหล่านั้นจะไม่สนับสนุนมาตรการยับยั้งภาวะโลกร้อนอย่างจริงจังต่อไป
หากอ่านผลการประชุมแบบผ่าน ๆ จากรายงานของสื่อ อาจสรุปว่าประเทศก้าวหน้าจะเพิ่มการช่วยเหลือประเทศล้าหลัง หรือกำลังพัฒนาที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากภาวะโลกร้อนให้ปรับเปลี่ยนการผลิตพลังงานและป้องกันความเสียหายจากปีละ 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นปีละ 3 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเงินจำนวนมหาศาล
แต่หากอ่านรายละเอียดจะรู้ว่า อะไรทำให้ตัวแทนของประเทศอินเดียสรุปว่าข้อตกลงนั้นเป็นการเล่นมายากล และผู้ร่วมประชุมหลายคนประณามว่าเป็นการดูแคลนและหักหลัง
ทั้งนี้เพราะนักเศรษฐศาสตร์คำนวณว่าถ้าจะบรรลุเป้าหมายจะต้องใช้ทุนถึงปีละ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
ยิ่งกว่านั้น ทุนจำนวน 3 แสนล้านดอลล่านั้นไม่ได้มาจากภาครัฐอย่างเดียว หากจะต้องมาจากภาคเอกชนด้วย และส่วนหนึ่งจะเป็นในรูปของเงินกู้ ไม่ใช่ให้เปล่า ในปัจจุบัน ประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากแบกหนี้จนหลังแทบหักอยู่แล้ว
จากมุมมองของการปฏิบัติตามข้อตกลงที่ผ่านมา คำมั่นสัญญาที่จะช่วยจำนวน 3 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งนับว่าน้อยอยู่แล้วอาจไม่บรรลุเป้าหมายก็ได้ ทั้งนี้เพราะคำมั่นสัญญาครั้งก่อนว่าจะช่วยปีละ 1 แสนล้านดอลลาร์ยังพลาดเป้ามาแล้ว
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่อาเซอร์ไบจาน มันบ่งชี้ถึงการมีนัยสำคัญแฝงอยู่ กล่าวคือ รัสเซียเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังและจะใช้อำนาจยับยั้งในองค์การสหประชาชาติหากจะไปจัดที่อื่น ทั้งรัสเซียและอาเซอร์ไบจานส่งออกน้ำมันสูงมาก
นอกจากนั้น พวกเขายังได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากซาอุดีอาระเบียซึ่งส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลกอีกด้วย
สิ่งที่แสดงว่าประเทศเหล่านี้มีอิทธิพลสูงมากในการประชุมได้แก่ เอกสารที่แสดงการตกลงกันไม่เอ่ยถึงการลดการเผาน้ำมัน ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเพื่อผลิตพลังงาน ทั้งที่มันเป็นปัจจัยนำที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อน
ประเทศเหล่านี้ตระหนักดีว่า ปีนี้ชาวโลกจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมามากที่สุดและอุณหถูมิโลกจะร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์
ในบริบทของการประชุมนี้ จีนจัดตัวเองว่าเป็นประเทศกำลังพัฒนา ยังไม่ก้าวหน้าและร่ำรวย ฉะนั้น จีนไม่ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยสนับสนุนกองทุนจำนวน 3 แสนล้านดอลลาร์นั้น ทั้งที่จีนก้าวหน้าจนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจไม่ต่างกับสหรัฐแล้วและในปัจจุบันเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากกว่าใครในโลก
ผลของการประชุมครั้งนี้บ่งชี้หลายประเด็น เช่น พฤติกรรมของประเทศก้าวหน้าโดยเฉพาะมหาอำนาจอันประกอบด้วยนักบริโภคเกินพอดีเป็นส่วนใหญ่ไม่ต่างกับนักบริโภคที่ร่ำรวยโดยทั่วไปในสังคมโลก นั่นคือ ใจแคบ จึงไม่พร้อมจะช่วยผู้อื่นแม้การช่วยนั้นตนจะได้รับผลดีด้วยก็ตาม
จากมุมมองของกรรมตามหลักธรรม ไม่เฉพาะผู้ก่อกรรมทำชั่วร้ายเท่านั้นที่จะรับผลร้าย หากผู้อื่นก็มักต้องรับผลร้ายด้วย ผู้ไม่ก่อกรรมแต่ไร้อำนาจอาจโวยวายได้ แต่จะทำสักเท่าไรก็มักไร้ผล
และทั้งประเทศและบุคคลต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและพร้อมที่จะรับมือกับระดับความร้อนแบบตับแตกอันยาวนาน ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลมพายยุที่พัดแรงขึ้นและเกิดบ่อยขึ้น และความแห้งแล้งที่นานขึ้นพร้อมกับครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น.