‘การร่วมมือในหลายๆ ด้าน’ เป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนลดโลกร้อน

ปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวในงาน Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business ช่วงสัมมนา Government's Mechanisms to Achieve SDGs จัดโดย 'กรุงเทพธุรกิจ' ว่า การประชุม COP29 ที่ผ่านมา ได้มีข้อสรุปเกี่ยวกับเป้าหมายการเงินใหม่ ซึ่งเรียกร้องให้ภาคีทั้งหมดระดมทุนอย่างน้อย 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในปี 2035 ซึ่งเป็นเป้าหมายการระดมทุนรวมทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุด และมุ่งหวังที่จะได้รับการสนับสนุนจากทุกแหล่ง ทั้งแหล่งสาธารณะและเอกชนสำหรับการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในประเทศกำลังพัฒนา

ทั้งนี้ยังขยายเป้าหมายการระดมทุนร่วมกันของประเทศพัฒนาแล้ว จาก 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ที่กำลังจะหมดเขตในปี 2025 เป็น 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายในปี 2035 ซึ่งเป็นการเพิ่มพลังอย่างมีนัยสำคัญ ประเทศพัฒนาแล้วต้องเป็นผู้นำสนับสนุนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในประเทศกำลังพัฒนา และประเทศพัฒนาน้อยที่สุด

COP29 ได้สร้างเวทีสำหรับยุคใหม่ในการเงินด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกระตุ้นความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนประเทศที่เปราะบางที่สุดในการเดินทางไปสู่ความยั่งยืน

ซึ่งไทยได้รับเงินสนับสนุนโครงการสีเขียวเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund: GCF) ที่จัดสัดส่วนการเงินให้ประเทศกำลังพัฒนา 2 รูปแบบ ได้แก่ เงินสำหรับเตรียมความพร้อม และเงินสำหรับดำเนินโครงการต่างๆ ซึ่งเงินเหล่านี้จะช่วยให้ไทยขับเคลื่อนเป้าหมาย NDC โดยแบ่งเป็นสิ่งที่ประเทศทำเองได้  3.4% และสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศ อีก 6.7%  และต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนเพื่อขอรับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ

นอกจากนี้มีการรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเรื่องที่สำคัญมากทุกคนต้องดำเนินการ เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกอย่างเชื่อมโยงกับกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกหรือการปรับตัวก็ตาม หรือจะเป็นเรื่องการเงินก็จะมีการนำมาสนับสนุน SME อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมมือกับ BOI ตลาดหลักทรัพย์ กรมสรรพสามิต เพื่อจะทำให้ธุรกิจเป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำที่สุดเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์