‘จีน’ เล็งออกพันธบัตรรุ่นนานพิเศษ 50 ปี วงเงิน 1 ล้านล้านหยวน เปิดขายศุกร์นี้
จีนประชุมหารือการออกพันธบัตรระยะยาว 20 - 50 ปี วงเงิน 1 ล้านล้านหยวน คาดเปิดจำหน่ายวันศุกร์นี้ เป็นการออกบอนด์ล็อตใหญ่สุดในรอบ 4 ปี หวังหาเงินจ่อกระตุ้นการคลังครั้งใหญ่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า กระทรวงการคลังจีนได้จัดการประชุมในวันนี้ (13 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการจำหน่ายพันธบัตรของรัฐบาลกลางที่มีอายุการไถ่ถอนยาวนานพิเศษ (Ultra-long special central government bonds) ตั้งแต่ 20 - 50 ปี วงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (กว่า 5 ล้านล้านบาท)
การจำหน่ายพันธบัตรดังกล่าว เป็นการจำหน่ายเพียงครั้งที่ 4 ในระยะเวลา 26 ปี โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีก่อน หรือในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลจีนทำการออกพันธบัตรวงเงิน 1 ล้านล้านหยวนเพื่อระดมทุนในการใช้จ่ายในการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในเวลานั้น โดยมีธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ในจีนได้ยื่นมือช่วยกระทรวงการคลังในการจำหน่ายพันธบัตร
ทั้งนี้ จีนได้ประกาศแผนจำหน่ายพันธบัตรระหว่างการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในเดือนมี.ค. ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้คำมั่นว่าจะยกระดับการสนับสนุนทางการเงินเพื่อพยุงเศรษฐกิจ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายคาดหวังมากขึ้นว่า รัฐบาลกลางของจีนกำลังจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการคลังท่ามกลางแรงกดดันจากหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่นในหลายพื้นที่ของจีน
ซิง จ้าวเผิง นักวิเคราะห์จากธนาคาร ANZ กล่าวว่า ช่วงจังหวะในการออกพันธบัตรครั้งนี้ดูเหมือนจะออกมาเพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐที่มีต่อสินค้าจีน และเป็นที่คาดว่าการกระตุ้นทางการคลังของจีนอาจช่วยกระตุ้นจีดีพีได้มากถึง 1 จุดเปอร์เซนต์ จากที่รัฐบาลตั้งหมายจีดีพีในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 5%
สำหรับรายละเอียดของการออกพันธบัตร 1 ล้านล้านหยวนในครั้งนี้ เบื้องต้นแหล่งข่าวเปิดเผยว่าจะแบ่งเป็น
- พันธบัตรอายุ 20 ปี วงเงิน 3 แสนล้านหยวน
- พันธบัตรอายุ 30 ปี วงเงิน 6 แสนล้านหยวน
- พันธบัตรอายุ 50 ปี วงเงิน 1 แสนล้านหยวน
เป็นที่คาดว่าคาดว่ารัฐบาลจะเริ่มขายล็อตแรกออกมาก่อนเบื้องต้นในวันศุกร์ที่ 17 พ.ค.นี้ จากนั้นคาดว่าจะทยอยขายพันธบัตรล็อต 20 และ 50 ปี ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. และ 14 มิ.ย.นี้ ตามลำดับ ส่วนล็อตอายุ 30 ปี จะเปิดจำหน่ายในเดือย พ.ย. หรือช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ปัจจุบัน ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีของจีนอยู่ที่ประมาณ 2.5-2.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี โดยลดลงมาจากระดับกว่า 3% ในปีที่แล้ว
เจมสัน ซัว ผู้อำนวยการบริษัท CSPI Credit Rating เปิดเผยกับไฟแนนเชียลไทม์สว่า การออกบอนด์ครั้งนี้ยังมาในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับโครงสร้างหนี้ในจีน ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งพยายามใช้การกู้ยืมของรัฐบาลกลางมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่พอกพูนในจีน
หากเทียบกับสัดส่วนหนี้ของประเทศอื่นๆ ในโลกแล้ว รัฐบาลจีนยังสามารถกู้หนี้ด้วยการออกบอนด์อีกนับล้านล้านหยวนภายในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถใช้กระสุนทางการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ