หุ้นสหรัฐปิดลบ หลังเด้งรับเฟดทุบสถิติระหว่างซื้อขาย ตลาดรับข่าวดีไปแล้ว

หุ้นสหรัฐปิดลบ หลังเด้งรับเฟดทุบสถิติระหว่างซื้อขาย ตลาดรับข่าวดีไปแล้ว

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเล็กน้อย หลัง 'Dow-S&P500' เด้งรับเฟดไปทุบสถิติใหม่ระหว่างซื้อขาย ตลาดเผยรับสัญญาณข่าวดีล่วงหน้าไปแล้ว ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 103.08 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) สหรัฐ ปิดตลาดวันพุธที่ 18 ก.ย.67 ลดลงเล็กน้อย แม้จะได้สัญญาณบวกจากผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ใช้ยาแรงลดดอกเบี้ยไปถึง 0.5% ก็ตาม ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี และทำให้ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ขึ้นไปทุบสถิติสูงสุดใหม่ระหว่างการซื้อขาย แต่นักวิเคราะห์ระบุว่าตลาดรับสัญญาณข่าวดีไปแล้วก่อนหน้านี้  

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 103.08 จุด หรือ -0.25% ปิดที่ 41,503.10 จุด
  • ดัชนี S&P500 ลดลง 16.32 จุด หรือ -0.29% ปิดที่ 5,618.26 จุด
  • ดัชนี Nasdaq ลดลง 54.76 จุด หรือ -0.31% ปิดที่ 17,573.30 จุด 

"ผมทึ่งมากที่แม้ว่าตลาดจะได้สิ่งที่ต้องการแล้ว แต่กลับต้องการมากขึ้นไปอีกทันที" สตีฟ ซอสนิค หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดของ Interactive Brokers กล่าวกับรอยเตอร์ส

"สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ หุ้นไม่ได้พุ่งขึ้น (หรืออย่างน้อยก็ยังไม่พุ่งขึ้น) หลังจากได้สิ่งที่ต้องการ เพราะหุ้นขึ้นมา 7 วันติดต่อกันไปแล้ว ตลาดรับข่าวดีไปก่อนหน้านี้แล้ว"

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ลงมติ 11 ต่อ 1 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงเหลือ 4.75% - 5.0% หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษมาเป็นเวลากว่า 1 ปี 

ขณะที่ผลการคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐในระยะยาว (Dot Plot) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ 10 คนจาก 19 คน "สนับสนุนให้ลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.5% ในการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือของปี 2024"

ทางด้านเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง พร้อมกับกล่าวว่า เขายังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession)

ในช่วงแรก ตลาดพุ่งขึ้นขานรับผลการประชุมเฟด โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน ก่อนที่ดัชนีจะลดช่วงบวก และปิดตลาดในแดนลบ

ทั้งนี้ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา การคาดการณ์เกี่ยวกับขนาดของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้เป็นไปอย่างผันผวน และหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. โดยให้น้ำหนักราว 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50%

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 0.77% ตามด้วยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัว 0.51% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 0.25%

ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ และเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง ทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปสูง โดยดัชนีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 2.44% ในระหว่างวัน ก่อนที่จะลดช่วงบวก และปิดตลาดขยับขึ้น 0.04%

ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารระดับภูมิภาค (KBW Regional Bank Index) ซึ่งเคยถูกกดดันจากภาวะอัตราดอกเบี้ยสูงในช่วงที่ผ่านมานั้น ทะยานขึ้น 3.53% ในระหว่างวัน ก่อนที่จะลดช่วงบวก และปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.46%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 9.6% สู่ระดับ 1.36 ล้านยูนิตในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.32 ล้านยูนิต จากระดับ 1.24 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์