Sideways Up ซื้อเก็งกำไร TASCO COTTO AAV (13 ก.ย. 2565)

Sideways Up ซื้อเก็งกำไร TASCO COTTO AAV (13 ก.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ Sideways Up แนวต้าน 1,685 / 1,693 จุด แนวรับ 1,658 / 1,650 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TASCO COTTO AAV ทางเทคนิค เป็นรูปแบบ Up Trend โดยมีเป้าหมายที่ แนวต้านเดิม 1,693 จุด

โมเมนตัมบวก คือ การคาดหวังว่าสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ลดลงต่อเนื่อง +8.1% YoY (Vs เดือน ก.ค. +8.5% YoY) และอาจทำให้เฟดชะลอการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย ไฮไลท์อื่น ๆ วันนี้ คือ Germany รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด 7.9% YoY, 0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค. 7.5% YoY, +0.9% MoM) Thailand รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. คาด 42 (Vs เดือน ก.ค. 42.4) และผลประชุมครม. คาดพิจารณาการขอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันไดเดือน ก.ย.-ธ.ค. สำหรับผู้ใช้ 301-500 หน่วย การต่ออายุลดภาษีดีเซล 5 บาท/ลิตร ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 20 ก.ย. การประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ BH GULF CRC JMART TCAP JMT CENTEL BEM AOT WHA CPN MINT KTB BDMS FORTH (แนะนำ ซื้อ EA)

+ Daily Recommendations: TASCO COTTO (ได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วม หนุนอุปสงค์สินค้าเกี่ยวกับการซ่อมแซมหลังน้ำท่วม) AAV (รับการคลายเกณฑ์การเข้าประเทศญี่ปุ่น หนุนจำนวนเที่ยวบินเส้นทางต่างประเทศเพิ่มขึ้น)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์แนวโน้ม Bond Yield ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว: SAWAD MTC TIDLOR

+ หุ้นที่ได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วม: TASCO COTTO BDMS

+ หุ้นรับประเด็นบวกญี่ปุ่นยกเลิกเพดานนักท่องเที่ยวต่างชาติ: AAV BAFS KTC

+ หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 จากการปรับเกณฑ์ Turnover Ratio: DELTA BJC

 

ปัจจัยบวก

+ USA: เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 8.10% YoY จากการชะลอตัวของราคาพลังงานและตลาดอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ภาคแรงงานมีแนวโน้มตึงตัวน้อยลง สะท้อนจากตัวเลข Non-Farm Payroll ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้เฟดมีโอกาสที่ชะลอความเข้มงวดด้านมาตรการทางการเงินในระยะถัดไป

 

 

 

+ Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 2,067.38 ล้านบาท และเปิดสถานะ Long สุทธิใน SET50 Index Futures +32,378 สัญญา

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: ALT UTP PEACE BYD WHAUP HUMAN

- USA: รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด +8.1% YoY, -0.1% MoM (Vs เดือน ก.ค. 8.5% YoY, 0% MoM)

- Germany: รายงานเงินเฟ้อเดือน ส.ค. คาด 7.9% YoY, 0.3% MoM (Vs เดือน ก.ค.7.5% YoY, +0.9% MoM)

- Thailand: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค. คาด 42 (Vs เดือน ก.ค. 42.4) และผลประชุมครม. คาดพิจารณาการขอปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-8% การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันไดเดือน ก.ย.-ธ.ค. สำหรับผู้ใช้ 301-500 หน่วย การต่ออายุลดภาษีดีเซล การประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 

- UN: ประชุมจนถึงวันที่ 27 ก.ย. คาดถกประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 5: ตลาดหุ้นไทยเปิดบวก 6.21 จุด ตั้งแต่ช่วงต้นตลาด และเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น พร้อมทำจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. ที่ 1,672.64 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,665.74 จุด +11.12 จุด วอลุ่มซื้อขาย 6.25 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มยานยนต์ +2.28% เงินทุนและหลักทรัพย์ +2.25% พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ +1.82% สื่อและสิ่งพิมพ์ +1.8% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +1.38% หุ้นบวก >4% SAWAD GLOBAL TIDLOR DITTO DOHOME TEAMG AH AGE AWC HL FSMART TCC KAMART SAK หุ้นลบ >4% INSURE TIPH PRG BGT DIMET

 

 

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปปิดบวก: DJIA +0.71% S&P500 +1.06% NASDAQ +1.27% จากแรงซื้อเก็งกำไร ก่อนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ในวันที่ 13 ก.ย. นี้ นำบวกโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันและกลุ่มเทคฯ นำโดย APPLE +3.9% รับประเด็นการเปิดตัว iPhone 14 และสินค้าอื่น ๆ ได้รับความสนใจสั่งจองซื้อจำนวนมาก ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวก CAC40 +1.95% DAX +2.40% FTSE +1.66% โดยได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร คาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องของ ECB และกลุ่มค้าปลีก จากความพยายามผลักดันมาตรการช่วยเหลือภาคครัวเรือน จากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

+ ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +99 เซนต์ ปิดที่ USD87.78/บาร์เรล BRENT +USD1.16 ปิดที่ USD94/บาร์เรล ขานรับมุมมองที่ว่ามาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัว ส่วนราคาทองคำ +USD12 ปิดที่ USD1,740.6/ออนซ์ เป็นผลจากการอ่อนค่าของสกุล เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ

 

ประเด็นสำคัญ

+ China: 24 เมีองใหญ่ของจีน ประกาศแผนกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ปกครองสามารถอนุญาตให้บุตรนำเงินบานาญของผู้ปกครองไปซื้อบ้านแทนได้

+ Japan: รัฐบาลญี่ปุ่นอาจยกเลิกเพดานนักท่องเที่ยวเข้าประเทศภายในเดือน ต.ค. นี้ โดยไม่ต้องจองผ่านบริษัทด้านการเดินทางอีกต่อไป ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเคยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจาก 68 ประเทศ เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ในช่วงก่อน COVID-19 ระบาด (+ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจเติมน้ำมันเครื่องบิน ธุรกิจโรงกลั่น AOT AAV BAFS TOP)

- EU / Oil: รัฐมนตรีพลังงานยุโรป มิอาจบรรลุข้อตกลงจำกัดราคาก๊าซรัสเซียได้ในการประชุมฉุกเฉินปลายสัปดาห์ก่อน โดยประเทศที่พึ่งพิงรัสเซียมาก เช่น ฮังการี สโลวาเกีย ออสเตรีย กลัวถูกรัสเซียปิดท่อส่ง ส่วนนโยบายประหยัดพลังงาน อาจใช้แนวทางสมัครใจมากกว่าภาคบังคับ เพราะวิตกเสียงคัดค้านจากประชาชนในประเทศ

- UK / EU: รัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของนายกฯ คนใหม่ Liz Truss เสนอแผนอุดหนุนค่าพลังงานแก่ครัวเรือนและธุรกิจ ซึ่งอาจใช้งบสูงถึง 1.5 แสนล้านปอนด์ ทั้งนี้ หลายประเทศในกลุ่มสมาชิกอียู เช่น เยอรมนี ออสเตรีย เป็นต้น ก็ใช้มาตรการอุดหนุนคล้าย ๆ กัน เพิ่มความเสี่ยงต่อด้านเสถียรภาพ เพราะเงินเฟ้อจะไม่ปรับลดลงและยืดเยื้อ พร้อมเพิ่มภาระหนี้สินในภาวะดอกเบี้ยสูง สอดคล้องกับ ECB ที่แม้ว่าปรับลดดอกเบี้ย แต่ยังคงไม่ยอมลดขนาดงบดุล (QT) (เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด Recession Economy ที่รุนแรง)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BJC CENTEL SAWAD

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: TASCO COTTO AAV

Derivatives: แนะถือ Long S50U22 รอทำกำไรตามเป้า