GPSC ผลประกอบการ 3Q65: ถูกกดดันจากต้นทุนพลังงาน

GPSC ผลประกอบการ 3Q65: ถูกกดดันจากต้นทุนพลังงาน

ผลประกอบการ 3Q65 – เป็นไปตามคาดเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้

กำไรสุทธิของ GPSC ใน 3Q65 เป็นไปตามคาดที่ 331 ล้านบาท (-52% QoQ, -82% YoY) แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ ซึ่งได้แก่ i) ผลขาดทุน FX 61 ล้านบาท และ iii) ค่าใช้จ่าย amortization 453 ล้านบาทจากการซื้อหุ้น Glow ทั้งนี้ กำไรหลักอยู่ที่ 845 ล้านบาท (-23% QoQ, -63% YoY) เพราะไม่มีกำไรหลังหักภาษี 288 ล้านบาทจากการโอนธุรกิจแบตเตอรี่เหมือนใน 2Q65 และ GPM ลดลงมาเหลือ 2.4% (จาก 5.4% ใน 2Q65) ทั้งนี้ กำไรหลักในงวด 9M65 คิดเป็น 67% ของประมาณการปี 2565 ของเรา

 

กำไรสุทธิตํ่ามาก แม้จะเป็นช่วง peak ของโรงไฟฟ้าพลังนํ้า

กำไรขั้นต้นใน 3Q65 ลดลงถึง 45% QoQ เนื่องจาก i) ราคาก๊าซ และถ่านหินแกว่งตัวขึ้นไปเป็น 513 บาท/mmbtu (+19% QoQ) และ US$355/ton (+73% QoQ) ii) เป็นช่วงหน้าฝน และ iii) GHECO-One ปิดซ่อมบำรุง (17 วัน) และ SRC IPP หยุดผลิตไฟฟ้าทั้งตามแผน และนอกแผน (26 วัน) ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้า SPPs ลดลง (-29% QoQ) เช่นเดียวกับของโรงไฟฟ้า IPPs (-6% QoQ) นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากเงินปันผล 81 ล้านบาทจาก RPCL อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น 58% QoQ (จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นของ XPCL) และค่า Ft เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเป็น 0.4766/kWh (+0.3068) ยังไม่พอที่จะชดเชยกำไรขั้นต้นที่ลดลงดังกล่าวได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผลขาดทุนจาก Avaada ยังลดลงเพราะ
operating capacity เพิ่มขึ้น (+320MWe) และค่าใช้จ่าย amortization ลดลง ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบจากฤดูฝน และค่าธรรมเนียมในการทำ refinance ไปได้บ้าง

 

ประมาณการ 4Q65F – การดำเนินงานจะทรงตัว ก่อนจะดีดตัวแรงในปี 2566

เราคาดกำไรสุทธิใน 4Q65 จะสูงที่สุดในปี 2565 เพราะจะมีค่าสินไหมประกัน ≥20 ล้านดอลลาร์ฯ จากโครงการ GE เฟสที่ 5 แต่กำไรหลักจะยังซบเซาอยู่ เพราะราคาก๊าซเพิ่มขึ้นอีกราว 5-10% QoQ และราคาถ่านหินยังสูงอยู่ ในขณะที่ SG&A เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และอุปสงค์การใช้สาธารณูปโภคลดลง ส่วน XPCL ก็จะยังอ่อนแอลงอีก ทั้งนี้เราคิดว่าปัจจัยบวกที่จะมาช่วยชดเชยปัจจัยลบข้างต้นคือผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นของ Avaada และ ค่า Ft เฉลี่ยที่ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 0.9343 บาท/kWh (+0.46) ทั้งนี้ ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1 สตางค์/mmbtu จะทำให้กำไรสุทธิเต็มปีเพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท

 

มุมมองของเราในระยะสั้น

การกลับทิศของราคาพลังงาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB นอกจากจะช่วยหนุนสภาวะการลงทุนแล้ว ยังจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานของ GPSC ในปี 2566 ด้วย ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 เรายังคงเห็นการปรับลดลงของ Asia JKM (LNG) และ ICE Newcastle (ถ่านหิน) forward curve ซึ่งชี้ว่าราคาในสัญญา future จะลดลง (Figure 3) และลดลงจากข้อมูลในเดือนสิงหาคม 2565 เราคาดว่าประชุมนักวิเคราะห์งวด 3Q65 (วันที่ 16 พ.ย.) ผู้บริหารอาจจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับความคืบหน้าของ Avaada และการเติบโตจากแผน PDP ของไทย และเวียดนามที่กำลังจะประกาศ

 

 

 

Valuation & Action

เรายังแนะนำซื้อ GPSC ด้วยราคาเป้าหมายที่ 74 บาท เราแนะนำให้นักลงทุนมองเลยไปที่การฟื้นตัวของกำไรในปี 2566 โดยมองว่าราคาหุ้นน่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปเกือบหมดแล้ว ทั้งนี้ จากแผน PDPs ใหม่ที่กำลังจะออกมา รวมถึงการกลับทิศของราคาพลังงาน อัตราผลตอบแทนพันธบัตร และอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB ทำให้เราคาดว่าน่าจะมีการ rerate หุ้น GPSC ในระยะต่อไป เราชอบหุ้น GPSC มากกว่า B.Grimm Power (BGRIM.BK/BGRIM TB)* เนื่องจากการเป็นหุ้น laggard ที่มีแนวโน้มสดใสจาก Avaada และราคาถ่านหิน

 

Risks

ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, เกิดปัญหา cost overruns, ความผันผวนของ FX และอัตราดอกเบี้ย