ชาวจีนประท้วงทั่วประเทศ หุ้นรายงานพิเศษ CK
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงการซื้อ-ขาย ลบ ราว 6 จุด จากที่ตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด เพิ่มสูงขึ้น เป็น sentiment ลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,620.84 จุด -4.12 จุด -0.25% มูลค่าการซื้อขาย 36,768 ลบ. ต่างชาติ -197.61 ลบ. TFEX -12,442 สัญญา ตราสารหนี้ +1,656.33 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 152.97 จุด หรือ +0.45% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์บวก 1.78% ท่ามกลางการซื้อขายที่ยังคงซบเซาหลังวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า และตลาดมีการซื้อขายเพียงครึ่งวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลยอดขายสินค้าในวัน Black Friday และสถานการณ์โควิด-19 ในจีน
+ ขสมก.เร่งปรับปรุงแผนฟื้นฟูฯ เล็งเสนอก.คมนาคมพิจารณาลุยจัดหารถเมล์ EV ใหม่ วิ่งให้บริการ ปชช.-ทดแทนรถเก่า
+ นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย 4Q65 มีแนวโน้มขยายตัวแบบเร่งตัวขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวได้เกือบ 4% YoY ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2565 มีโอกาสขยายตัวอยู่ที่ 3.3-3.4% สูงกว่าที่สภาพัฒน์ ประเมินไว้ล่าสุดที่ 3.2%
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.13% ปิดที่ 76.28 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 4.78% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงนั้น ยังคงถ่วงตลาดลง
- ชาวจีนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศเพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน ขณะที่ผู้ประท้วงบางกลุ่มเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลาออกจากตำแหน่ง
- รัสเซียกำลังร่างกฤษฎีกาของประธานาธิบดีซึ่งจะห้ามบริษัทและเทรดเดอร์ใด ๆ ของรัสเซียจากการขายน้ำมันให้กับบริษัทและประเทศใด ๆ ก็ตามที่เข้าร่วมกำหนดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซีย
- บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่และบริษัทแซดทีอี คอร์ป ได้ถูกห้ามจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐ เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในจีนเร่งตัวขึ้น ส่งผลให้ชาวจีนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,610-1,625 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
• MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย. : MSCI Global Standard หุ้นเข้า : - , หุ้นออก : BAM
MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX
• FTSE : Mid Cap หุ้นเข้า TLI
• ช็อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
• จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19ในประเทศเร่งตัวขึ้น : BCH CHG EKH THG WPH
หุ้นรายงานพิเศษ
CK – Bloomberg Consensus 27.50 บาท
“คาด Backlog ทำ New High ในสิ้นปีนี้ แต่ผลประกอบการ 4Q65 อาจอ่อนลงตามปัจจัยฤดูกาล”
•งวด 3Q65 กำไร 571 ลบ. +108%YoY +91%QoQ (โตดีกว่าตลาดคาด 25%) โดยมีรายได้ก่อสร้างเท่ากับ 3.6 พันลบ. +46%YoY +5%QoQ จากการทยอยรับรู้งานโครงการเดิมและเริ่มรับรู้งานใหม่ อาทิ โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 และ 3 ประกอบกับรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 736 ลบ. +71%YoY +57%QoQ จากผลประกอบการของบริษัทลูกเติบโตดี (CKP + BEM) ทั้งนี้ ช่วง 9M65 มีกำไร 992 ลบ. +24%YoY
•ปลายปีนี้มีโอกาสที่ Backlog จะทำ New High แตะระดับ 2.4 แสนลบ. จากปัจจุบันที่ราว 6 หมื่นลบ. สนับสนุนจาก 2 โครงการหลัก คือ 1.รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก มูลค่างานระบบและก่อสร้างรวมราว 1.1-1.2 แสนลบ. ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจาก ครม. และ 2.โครงการเขื่อนหลวงพระบาง มูลค่า 8 หมื่นลบ. ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตกลงราคาสุดท้าย โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวคาดจะได้รับข้อสรุปและลงนามภายในปีนี้ นอกจากนี้ ปี 66 ยังมีโอกาสรับอีก 2 โครงการใหญ่ คือ 1.ทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) มูลค่า 3.5 หมื่นลบ. และ 2.งานระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ มูลค่า 2.7 หมื่นลบ.
•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้ม Backlog ที่คาดจะทำ New High ช่วยสนับสนุนรายได้ก่อสร้างเติบโตต่อเนื่องไปอีกราว 6-7 ปี อย่างไรก็ตาม คาดผลประกอบการ 4Q65 อาจอ่อนลง QoQ และเผชิญผลขาดทุน เนื่องจากไม่ได้ปันผลจาก TTW (ปกติได้ปันผลช่วง Q2,Q3) และแนวโน้มส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 ราว 972 ลบ. (กำไร 9M65 คิดเป็น 102% ของประมาณการทั้งปี)
หุ้นมีข่าว
(+) SEAFCO ( Bloomberg Consensus 4.15 บาท) โชว์ Backlog สูงถึง 1.9 พันล้านบาท หนุนรายได้-กาไรทั้งปี 2566 ยื่นประมูลงาน 4.7 พันล้านบาท ลุ้นชนะ 1.5 พันล้านบาท โกอินเตอร์ส่ง "ซีฟโก้ อินเตอร์เทรด" ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นลุยงานรถไฟใต้ดินบังกลาเทศ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AH ( Bloomberg Consensus 40.00 บาท) ตั้งเป้าผลงานปี 2566 ดีมากกว่าปีนี้ คาดเติบโต 10-15% อัตรากาไรขั้นต้น 10-12% และมีอัตรากาไรสุทธิสูงกว่าปีนี้ จากคาสั่งซื้อใหม่ๆ โดยเฉพาะจากรถยนต์อีวีคาดมีคาสั่งซื้อไม่ต่ากว่า 500-600 ล้านบาท ย้าเป้าปีนี้โต 30% ตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ICN (Bloomberg consensus - บาท) เตรียมเซ็นสัญญารับงานใหม่ทิ้งท้ายปีมูลค่ารวม 300 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกสิ้นปีทะลุ 2 พันล้านบาทจากปัจจุบันพันกว่าล้านบาท จับตาโครงการปีหน้าออกเพียบ คาดหนุนรายได้โตต่อ 20-30% ใส่เกียร์เดินหน้าโฟกัสธุรกิจรับเหมาวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SPA (Bloomberg consensus 11.70 บาท) จับตาไฮซีซันดันยอดใช้บริการคึก แตะที่ระดับ 70% ลุ้นผลประกอบการเทิร์นอะราวด์เร็วๆ นี้ ปรับค่าบริการสอดคล้องต้นทุน ด้านผู้บริหารเล็งเปิดตัวธุรกิจใหม่ บาบัด รักษาอาการนอนไม่หลับด้วยกัญชง-กัญชากลางเดือนธันวาคมนี้ รับทรัพย์ปี 2566 เต็มปี 50 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)