วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 ม.ค. 66)
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังรายงานความต้องการใช้น้ำมันในจีนปรับตัวสูงขึ้น
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีรายงานจาก Joint Organisations Data Initiative (JODI) ว่าอุปสงค์น้ำมันในจีนปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 15.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ย. 65 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 65 นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าตลาดจะเผชิญกับสภาวะตึงตัวในด้านพลังงานหลังจากที่จีนเปิดประเทศ รวมทั้งอุปทานที่ลดลงจากรัสเซียที่เผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
+ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันในรัสเซียลดลง 1.6 ล้านบารเรลต่อวัน สู่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาสแรกของปี 66 โดยลดลงมา 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันหากเทียบกับปริมาณการผลิตในปี 65
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ ณ วันที่ 13 ม.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.65 สู่ระดับ 448.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 0.6 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการนำเข้าน้ำมันเบนซินในฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้น จากอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกน้ำมันเบนซินในอินเดียที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในเดือน ก.พ. 66
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์ในเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันดีเซลในแถบยุโรปมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปีนี้