ยังผันผวน หุ้นรายงานพิเศษ AUCT (20 ก.พ. 2566)
วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในแดนลบ โดยมีประเด็นสำคัญ คือ สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย 4Q65 ขยายตัว 1.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ +3.5% โดยทั้งปี 65 GDP +2.6% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด +3.2% แรงซื้อมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มค้าปลีก
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,651.67 จุด -6.62 จุด -0.40% มูลค่าการซื้อขาย 53,413 ลบ. ต่างชาติ -1,780.79 ลบ. TFEX -13,036 สัญญา ตราสารหนี้ -1,958.82 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 129.84 จุด หรือ +0.39% แต่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลบท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐที่สูงเกินคาด และบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.1%
+ คณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ประกาศว่า จีนบรรลุเป้าหมายการเอาชนะโรคโควิด-19 ขั้นเด็ดขาดหลังจำนวนผู้เสียชีวิตลดลงอย่างมาก
+ ประเทศต่าง ๆ ใน EU ตกลงกันว่าจะยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้นกับนักเดินทางจากจีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากที่จีนเปิดประเทศทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นอย่างมาก
+ ทอท. เปิดเผยสถิติเที่ยวบิน และผู้โดยสารในภาพรวมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ช่วงเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 - 15 ก.พ. 2566 มีจำนวนเที่ยวบินรวม 107,304 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารรวม 17.3 ล้านคน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินขาเข้าจากจีนจะแตะ 500,000 คน ภายในประมาณวันที่ 1 พ.ค. 2566 และถึง 1,000,000 คน ภายในประมาณวันที่ 20 ส.ค. 2566
+ กระทรวงการคลังรายงานจัดเก็บรายได้รัฐในช่วง 4 เดือน แรกของปีงบประมาณ 66 เท่ากับ 8.36 แสนล้านบาท เกินเป้าหมายที่ 9.1 ล้านบาทจากการเพิ่มขึ้นของภาษีเงินได้นิติบุคคล
+ ก.ล.ต.เล็งปรับเกณฑ์รายงานธุรกรรมซื้อขายกองทุนสังกัดเดียวกันช่วยให้บริษัทจัดการกองทุนบริหารหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำได้ดียิ่งขึ้นและช่วยลดต้นทุน
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.15 ดอลลาร์ -2.74% ปิดที่ 76.34 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 4.2% ในรอบสัปดาห์นี้ ร่วงลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน วิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หลังเจ้าหน้าที่เฟด ต่างสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
- สถานการณ์ด้านการเมืองในภูมิภาคยังตึงเครียด ล่าสุด กองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธจำนวน 3 ลูกตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นในช่วงเช้าวันนี้
- ทางการยูเครน เปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีทั่วยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) และโรงกลั่นน้ำมันเครเมนชุกซึ่งเป็นโรงกลั่นขนาดใหญ่ที่สุดถูกโจมตีไปด้วย แต่ยังไม่ทราบความเสียหาย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟด อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก ประกอบกับปัจจัยในประเทศสภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย 4Q65 ต่ำกว่าตลาดคาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,645-1,660จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• จีนเปิดประเทศ+เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
• หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
• หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : TKS SIRI PR9 SC STEC
• หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Global Standard : เข้า BANPU ออก - , MSCI Global Small Cap : เข้า AURA BTG ONEE SNNP และ THCOM ออก BANPU COM7 TIDLOR และ TISCO มีผล 28 ก.พ.นี้
• BOI ส่งเสริมการลงทุนชิ้นส่วน EV : EA GPSC BCP DELTA PIMO FPI
หุ้นรายงานพิเศษ
AUCT - "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม 12.10 บาท)
"มุมมองบวกต่อผลประกอบการงวด 4Q65 ที่โตดีกว่าคาด
และมองบวกต่อเนื่องไปยังปี 66"
•(+) งวด 4Q65 กำไร 95 ลบ. -2% YoY +41%QoQ ดีกว่าที่เราคาด 13% โดยมีรายได้ 288 ลบ. +6%YoY +15%QoQ ดีกว่ำาเราคาด 6% ปัจจัยเติบโตหลักจากการที่สถาบันการเงินทยอยจบมาตรการพักชำระหนี้ ส่งผลให้จำนวนรถยึดเข้าสู่ลานประมูลปรับสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากการปรับค่าบริการรถยนต์ 4 ล้อเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 บาท จาก 9,000 บาท และปรับค่าดำเนินการรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป เป็น 12,000 บาท จาก 10,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 65 และกลุ่มรถบิ๊กไบค์เป็น 3,000 บาท จากเดิม 1,500 บาท ตั้งแต่ 26 พ.ย. 65 ส่วน %GPM และ %SG&A ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 53.5% (4Q64 = 56.5%, 3Q65 = 50.3%) และ 10.8% (4Q64 = 12.3%, 3Q65 = 13.9%)ใกล้เคียงกับที่คาด โดยปรับดีขึ้น QoQ จาก Economies of Scale
•(+) ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการงวด 4Q65 ที่โตดีกว่าคาด และมองบวกต่อเนื่องไปยังปี 66 โดยคาดการณ์รายได้และกำไรปี 66 ราว 997 ลบ. +7%YoY และ 296 ลบ. +23%YoY ตามลำดับ เติบโตต่อเนื่องจากปริมาณรถจบการประมูลที่คาดจะกลับเข้าสู่ช่วงก่อน โควิด-19 สนับสนุนจากแนวโน้ม NPL ที่ยังเร่งตัวขึ้น และรับรู้รายได้จากการปรับค่าบริการเต็มปี โดยเราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 12.10 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) GLORY (Bloomberg consensus - บาท) ตั้งเป้ารายได้ปี 2566 โตต่อ 20-50% หลังประกาศผลงานปี 2565 พุ่งขึ้น 46% โชว์ฝีมือปั๊มกำไรทะยาน 92.85% กวาดเงินเข้าพอร์ต 28.96 ล้านบาท รับทรัพย์ลงทุนเต็มปี ฟากผู้บริหารเล็งแตกไลน์ธุรกิจใหม่สนเฮลธ์แคร์-เทคโนโลยี เสริมฐานแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) IRCP (Bloomberg consensus 51.00 บาท) ตุนแบ็กล็อกแน่น 600 ล้านบาท จ่อบุ๊กปีนี้ 65-70% พร้อมผนึกพาร์ตเนอร์ลุยขยายไลน์ก่อสร้าง วางระบบภายในอาคาร คาดรับทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท พร้อมลุยชิงงานเติมพอร์ตพันล้านบาท ปักเป้าดันรายได้ปีนี้โต 10-15% จ่อชงบอร์ดเคาะงบปี 2565 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) WPH (Bloomberg consensus - บาท) ชูท่องเที่ยวอันดามันพีค ต่างชาติพักร้อนระยะยาวจองเที่ยวทะเลใต้เพียบ หนุนรับอานิสงส์ประกันสุขภาพฝรั่ง ดันสัดส่วนรายได้ชาวต่างชาติยืนเหนือ 20% จากปีก่อนราว 7% อัตราครองเตียงตรัง-อ่าวนางพุ่ง 90-95% ลั่นตัดริบบิ้น รพ.สมุย ขนาด 59 เตียง เสริมแกร่งรายได้ปี 2566 เติบโต 20% แตะ 1.5-1.6 พันล้านบาท ลุ้นไตรมาส 1/2566 มีข่าวดี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ITC (Bloomberg consensus 40.00 บาท) เล็งเป้ายอดขายปี 2566 เติบโตมากกว่า 15-17% จากปีก่อน มองตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงปีนี้ทั่วโลกขยายตัวราว 7.3% คาดคำสั่งซื้อใหม่แตะระดับ 85% ภายในไตรมาส 1/2566 ทุ่มงบลงทุน 2,100 ล้านบาท ก่อสร้างโรงงานใหม่อัพดันกำลังการผลิต และสยายปีกสร้างยอดขายต่างแดนเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)