BANKING SECTOR - ดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ห้าและอาจขึ้นต่อ
กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 25bps จาก 1.50% เป็น 1.75% โดยเป็นการขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องกันเป็นครั้งที่ห้า ซึ่งถือว่าเป็นไปตามที่เราคาด และตลาดประเมินเอาไว้
โดยเราคาดว่าธนาคารต่าง ๆ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย M-rates และดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นตามการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ภายในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า เราเชื่อว่าประเด็นนี้จะเป็นบวกกับกลุ่มธนาคาร เพราะนอกจาก NIM ของธนาคารต่าง ๆจะเพิ่มขึ้นตามการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว สินเชื่อยังน่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนมากขึ้นในปีนี้ด้วย ทั้งนี้ เราใช้สมมติฐานทางการเงินในกรณีฐานว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะทรงตัวอยู่ที่ 1.75% ในปีนี้ แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่ ธปท. อาจจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่ออีก 25bps เป็น 2.00% ในการประชุม กนง. นัดหน้าวันที่ 31 พฤษภาคม 2023 หลังถ้อยแถลงการประชุมรอบนี้ยังคงเป็นเชิง hawkish และยังไม่มีการส่งสัญญาณว่าวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้นจะจบรอบ
ธปท. เห็นความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวในระดับสูง
ธปท. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดีจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชนที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ธปท. เห็นความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อีกทั้งแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อที่ยังสูงและสภาวะตลาดเชิงลบจากความกลัวถึงเสถียรภาพในระบบธนาคารของสหรัฐและยุโรป นอกจากนี้ ธปท. ยังคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะค่อย ๆ ขยับเข้าหาช่วงเป้าหมายของนโยบายการเงินในกลางปี 2023 แต่เงินเฟ้อพื้นฐานอาจทรงตัวในระดับสูงต่อเพราะแรงกดดันจากทางด้านอุปสงค์ ดังนั้น ธปท. จึงมองว่าการค่อย ๆ ปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ระดับปกติจึงน่าจะยังเป็นแนวทางที่เหมาะสมภายใต้ประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อในปัจจุบัน
อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงบ่งชี้ว่านโยบายการเงินยังคงผ่อนคลายอยู่
ธปท. ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 2023-24 ลงเล็กน้อย จาก 3.7% และ 3.9% เหลือ 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เราไม่คิดว่าการปรับลดประมาณการดังกล่าวจะแสดงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และไม่น่าจะทำให้ตลาดเสียความมั่นใจในแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้เนื่องจาก ธปท. ปรับลดประมาณการการส่งออกลงเพียงเล็กน้อย แต่ปรับเพิ่มประมาณการการบริโภคภาคเอกชน และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งชี้ได้ว่าการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวน่าจะแรงพอช่วยชดเชยภาคส่งออกที่อ่อนแอลง อย่างไรก็ดี ธปท. คาดว่าทั้งเงินเฟ้อทั่วไปและเงินเฟ้อพื้นฐานจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงหรือใกล้ขอบบนของช่วงเป้าหมายนโยบายการเงินที่ 1-3% หมายความว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริง (หักเงินเฟ้อ) ยังติดลบ บ่งชี้ว่านโยบายการเงินของไทยยังคงเป็นการผ่อนคลาย การพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยต่อจึงมีความเป็นไปได้
Action/ Recommendation
เรายังคงมองบวกและให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารไทยที่ OVERWEIGHT โดยเลือก SCB (ราคาเป้าหมาย 160 บาท) และ BBL (ราคาเป้าหมาย 180 บาท) เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เรายังคงคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวได้ต่อในระยะสั้นตามสถานการณ์ความกลัวในตลาดลดลงหลัง Fed ใช้มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องและสถานการณ์ความยุ่งเหยิงของธนาคารในยุโรปเริ่มดูผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะวิ่งขึ้นและยืนได้ก็ต่อเมื่อผลประกอบการ 1Q23 แสดงให้เห็นว่าสินเชื่อยังสามารถขยายตัวและ NIM เพิ่มขึ้นได้ตามคาด