วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก FED คงอัตราดอกเบี้ย

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก FED คงอัตราดอกเบี้ย

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ หลังจากที่สหรัฐรายงานดัชนี CPI ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม FOMC

และนักลงทุนติดตามการประชุม ECB ซึ่งตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,561.15 จุด -1.25 จุด -0.08% มูลค่าการซื้อขาย 36,839 ลบ. ต่างชาติ -758.42 ลบ. TFEX +16,255 สัญญา ตราสารหนี้ +3,021.89 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) เพื่อสนับสนุนสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงิน
+ สหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 1.1%YoY ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.5% จากระดับ 2.3%
+ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเกณฑ์ทหารเพิ่มเติมหลังจากประกาศระดมพลจำนวน 300,000 นายในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
+/- ธปท.รายงานภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่องแต่มีความเสี่ยงหลายด้าน ดอกเบี้ยนโยบายระดับสูงยังจำเป็นเพื่อเอื้อต่อเสถียรภาพการเติบโตเศรษฐกิจในระยะยาว ยังคงมุมมองอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปี 66 และปี 67 ที่ระดับ 2%
 

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 232.79 จุด หรือ -0.68% หลังจาก FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.15 ดอลลาร์ -1.66% ปิดที่ 68.27 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
 

- FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.00-5.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ หลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกัน เพื่อประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม และเป็นผลดีต่อการตัดสินใจในอนาคต อย่างไรก็ดี คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้ง สู่ระดับ 5.50-5.75% ภายในสิ้นปีนี้
- ส.อ.ท. เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค.66 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 จากกังวล การส่งออกของไทยที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนของการเมืองในประเทศ
- 'เอลนิโญ'รุนแรงกว่าที่ประเมิน ฝนจะทิ้งช่วงยาวนานข้ามปีถึง ก.พ.67 หลายจังหวัดเจอภัยแล้ง กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนเกษตรกรรับมือ วางแผนใช้น้ำสำรองเผื่อ หันปลูกพืชอายุสั้นแทน

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัวผันผวน แม้เฟด จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามตลาดคาด แต่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,555-1,570 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นปันผลดี : TISCO INTUCH , หุ้นเด่นเกาะ Megatrend : BE8 BBIK GABLE , หุ้นยั่งยืน : EA WAVE , หุ้นเติบโตใน EEC : AMATA WHA ORI , หุ้นพื้นฐานเด่น : PJW XO
• สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. ที่ยังขยายตัวได้ดี : GFPT TFG
• หุ้นเข้า FTSE SET Index : Large Cap เข้า MAKRO TRUE ออก BEM DIF Mid Cap เข้า BEM BTG DIF ITC SAPPE SISB SNNP SCAP ออก CPNREIT RAM SINGER TRUE VIBHA XPG มีผล 19 มิ.ย.

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

MAKRO (Bloomberg Consensus 44.40 บาท)
แนวโน้มกำไร 2Q66 เติบโตแรง YoY และ QoQ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก FED คงอัตราดอกเบี้ย

 

•งวด 1Q66 มีกำไรสุทธิ 2,166 ล้านบาท +6%YoY -12%QoQ เนื่องจากยอดขายเติบโต +7.3%YoY ส่วนยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ปรับดีขึ้นจากธุรกิจค้าส่ง +10.9%YoY อัตรากำไรขั้นต้น 14% ลดลง yoy จาก 14.2% จากธุรกิจค้าปลีกที่มีอัตรากำไรขั้นต้นลดลง YoY เหลือ 18% จาก 18.6% ใน 1Q65 ส่วนธุรกิจค้าส่งมีอัตรากำไรขั้นต้น 10.9% +YoY จาก 10.4% ใน 1Q65 หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย ลดลง 15%YoY และอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดเหลือ 0.32 เท่าลดจากระดับ 0.38 เท่า ณ ปลายปี 65

•แนวโน้มกำไรงวด 2Q66 เติบโตสูง YoY และ QoQ จาก Bloomberg Consensus คาดจะมีกำไรเฉลี่ย 3,081 ล้านบาท +96%YoY +42%QoQ ได้ปัจจัยหนุนจากการท่องเที่ยวฟื้นตัว customer mix ที่ช่วยปรับปรุงมาร์จิ้นให้กับธุรกิจค้าส่งให้ปรับดีขึ้น

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากศักยภาพในการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคตจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปี 66 เฉลี่ย 11,363 ล้านบาท +48%YoY ขณะที่การเพิ่มฟรีโฟลตเป็น 15% ช่วยปลดล็อกให้หุ้นได้เข้าคำนวณดัชนี FTSE และ MSCI ที่ใช้อ้างอิงสำหรับนักลงทุนสถาบัน ราคาหุ้นที่ลดลง 6%YTD ซื้อขายที่ระดับ P/E 51 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 32 เท่า แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

 

หุ้นมีข่าว

(+) NEX (Bloomberg consensus 13.75 บาท) ย้ายเข้าหมวดยานยนต์แล้ว บิ๊ก "คณิสสร์ ศรีวชิระประภา" ชี้ทำให้ภาพชัด เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน เดินหน้าขยายธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เต็มสูบ ดีมานด์พรึ่บ ชูจุดแกร่ง อีโคซิสเต็มดี ต้นทุนแข่งขันได้ ครึ่งปีหลัง 2566 ส่งรถเพียบ มั่นใจรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ลุยตลาดอาเซียนหลายประเทศ ชงรัฐบาลใหม่หนุนอีวี ปลายปีมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg consensus 9.45 บาท) สัญญาณขนส่งกลับมาดีครึ่งปีหลัง แย้มกองทุนนอกเริ่มขอข้อมูลขนส่งทางอากาศมาแรง อิเล็กทรอนิกส์กลับมาโดดเด่น ส่งออกดี เดินหน้าโฟกัสกลุ่มนี้ รับอานิสงส์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ และย้ายฐานเข้าไทย ลั่นได้ลูกค้าใหญ่วอลุ่มเยอะ ด้านธุรกิจอีวีคืบเจรจายักษ์ใหญ่ขนส่งแสนตันคุ้มค่าลงทุน วางเป้าขึ้นแท่นเบอร์ 1 ขนส่งอีวี ขายคาร์บอนเครดิต (ที่มา ทันหุ้น)
 

(+) SCB (Bloomberg consensus 130.00 บาท) มองแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/2566 โตต่อเนื่อง รับดอกเบี้ยขาขึ้น หนุน NIM ปรับตัวเพิ่ม วางเป้ารายได้ปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แย้มธุรกิจใน GEN 2 มีพอร์ตสินเชื่อเติบโตโดดเด่น คาดทั้งปี 2566 มีพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้นแตะ 3.5 หมื่นล้านบาท ย้ำชัดปัดตกแนวคิดควบรวมกิจการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับคริปโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PACO (Bloomberg consensus - บาท) จับตาครึ่งปีหลังมาร์จิ้นฟื้นตัว ต้นทุนวัตถุดิบลด พร้อมปรับราคาขายสินค้า ด้านบอสใหญ่ "สมชาย เลิศขจรกิตติ" ตุนแบ็กล็อกแน่น 500 ล้านบาท ทยอยบุ๊กอีก 5 เดือนข้างหน้า แย้มอยู่ระหว่างเจรจาหางานใหม่เพิ่ม ชูธงรายได้ปีนี้โต 20-30% เดินหน้าขยายกำลังผลิต (ที่มา ทันหุ้น)