วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ยังเลือกเก็งกำไรรายตัว อาจมีแรงทำกำไรสลับ
ตลาดหุ้นโลกมีแรงขายทำกำไรจากปัจจัยต่างๆ 1) ตลาดตอบรับปัจจัยบวกระยะสั้น ตลอดจนผลประกอบการที่ออกมาดีไปพอสมควรแล้ว 2) ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศ (Long-Term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA (เมื่อ 1 ส.ค.)
โดยอ้างถึงแนวโน้มการถดถอยของสถานะทางการคลังของสหรัฐในช่วง 3 ปีข้างหน้า และการเจรจาเพดานหนี้ซ้ำในนาทีสุดท้าย 3) มีข่าวว่าทางการจีนเตรียมประชาพิจารณ์ร่างกฎหมายห้ามเขาวชนใช้มือถือเกิน 2 ชม/วัน ส่งผลให้ดัชนีหุ้นเทคโนโลยีจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Nasdaq Golden Dragon China Index: HXC) ปรับตัว -4.21%
ราคาน้ำมันดิบช่วงสั้นอาจชะลอตัวหลังคาดโอเปคพลัสจะไม่เพิ่มกำลังการผลิต ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ช่วงสั้นมีโอกาสชะลอตัวหลังปรับขึ้น +20% ในเวลาเพียง 1 เดือน ขณะที่ตลาดประเมินการประชุมโอเปคและพันธมิตร ในวันศุกร์นี้ (4 ส.ค.) จะยังไม่มีการประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม ประกอบกับการรายงานผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นในช่วงไตรมาส 2/66 น่าขะเป็นจุดต่ำสุดของปีทำให้ในระยะสั้นอาจต้องระวังความผันผวนบ้าง อย่างไรก็ตามด้วยอุปทานที่ตึงตัว และเศรษฐกิจโลกระยะสั้นที่มีความเสี่ยงจากการถดถอยของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ต่ำลง ทำให้เรามองการป่อนตัวเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น โดยเราชอบ PTTEP, TOP และ OR
ในประเทศ กนง.ขี้นดอกเบี้ยนโยบาย +0.25% ตามคาด ติดตามการเมืองต่อ คณะกรรมการนโยายการเงิน (กนง.) มีมติขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย +0.25% ตามคาด และให้มุมมองว่าการขึ้นดอกเบี้ยเริ่มเข้าใกล้ Neutral rate มากขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าแม้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยอาจปรับขึ้นต่อแต่ก็น่าจะไม่มาก ทำให้แรงส่งของกลุ่มธนาคารในรอบนี้จะมาจากเรื่องของหุ้นรายตัว (ผลประกอบการและการมีสถานะการลงทุนที่มีการถือครองต่ำ) ซึ่งเราชอบ SCB ที่สุด ขณะที่บรรยากาศลงทุนวันนี้ยังมีแนวโน้มถูกกำหนดด้วยพัฒนาการของสถานการณ์การเมือง จับตาศาลรัฐธรรมนูญจะมีความเห็นรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งเราประเมินหากไม่รับ (ด้วยเหตุผลของอำนาจตุลาการและนิติบัญญัติที่ควรแยกกัน) จะส่งผลบวกต่อการจดตั้งรัฐบาลใหม่ และเป็นบวกต่อบรรยากาศลงทุน
ภาพรวมกลยุทธ์: บรรยากาศเก็งกำไรรายตัวยังเป็นบวก กลุ่มที่น่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่เริ่มถูกหมุนมาเก็งกำไร 2) กลุ่มท่องเที่ยวที่ผลประกอบการจะออกมาดี 3) กลุ่มอิงภายนอกที่ดีต่อในครึ่งหลังมีแค่พลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น (แต่ระยะสั้นอาจต้องระวังผลประกอบการ) ขณะที่ปิโตรเคมีจะแย่ยาว ทำให้เหมาะแค่การเก็งกำไร
หุ้นแนะนำ: SPA*, SAMART*, RATCH*, IIG*
แนวรับ: 1,543 / แนวต้าน : 1,558-1,570 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
เพื่อไทยฉีก MOU 8 พรรค - “เพื่อไทย” เดินหน้าตั้งรัฐบาลใหม่ไม่มีพรรคก้าวไกล เหตุติดเงื่อนไขมาตรา 112 ส่งผลเอ็มโอยู 8 พรรค ล่ม ยันพร้อมเสนอ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ มั่นใจได้เกิน 375 เสียง จบในรอบเดียว
DELTA ลั่นอีวีดีมานด์สูง – DELTA ปลื้มรัฐบาลหลายประเทศหนุนเปลี่ยนผ่านสู่อีวีจริงจัง หนุนความต้องการอิเล็กทรอนิกส์ ลั่นเดินเครื่องโรงงาน 8 ไตรมาส 4 นี้ พร้อมเพิ่มงบลงทุนอีก 20% รับความต้องการในอนาคต ย้ำควบคุมต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
NOBLE ยันคอนโดรัชดาไม่มีปัญหาทางเข้า-ออก – โดยวอนภาครัฐชี้แจงข้อมูลของกฎหมายและระเบียบการใช้ที่ดินของหน่วยงานราชการออกมาให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมกางแผนครึ่งปีหลังเล็งเปิด 7 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 1.83 หมื่นล้านบาท หวังโกยยอดขายแตะ 2.3 หมื่นล้านบาท มั่นใจรายได้รวมตามเป้า 1.2 หมื่นล้านบาท
ไทม์ไลน์การเมือง – วันที่ 2-3 ส.ค. ประชุม 8 พรรค / 3 ส.ค. ประชุมวิป 3 ฝ่าย / 4 ส.ค. ประชุมสภาร่วม เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 รอบที่ 3
ประเด็นติดตาม: 3 ส.ค. - EU PMI, US Initial Jobless Claims, ISM Non-Manufacutring PMI/ 4 ส.ค. - EU Retail Sales, US Average Hourly Earnings, nonfarm Payrolls, Unemployment Rate
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)