วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงศรี ติดตามโหวตนายกรัฐมนตรี
ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index บวก 7 จุด (+0.44%) ปิดที่ระดับ 1,526 จุด รับข่าวพรรคเพื่อไทยจับมือ 11 พรรคการเมืองร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,520 - 1,540 จุด ความคาดหวังการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำและการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้ (22 ส.ค.) ยังคงหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวล FED จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อซึ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ อีกทั้งแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุม Jackson Hole Symposium จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
KCE HANA SMT ITC AAI TU กลุ่มส่งออกอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
ADVANC INTUCH SIRI THCOM SC PR9 XPG GULF STEC STPI PTG หุ้นอิงกระแสการเมือง
AMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย
หุ้นแนะนำวันนี้
CPAXT (ปิด 34.25 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 40 บาท) คาดหวังผลบวกจากภาพการเมืองที่ชัดเจนขึ้น การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุน, ยอดขาย และผลกำไรของ CPAXT โดยตรง
CKP (ปิด 3.58 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 4.60 บาท) ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่น้อยกว่าที่คาด ราคาหุ้นที่ลดลงมาและอยู่ในโซนล่างเป็นโอกาสซื้อคาดหวังผลกำไรของ CKP กลับมาฟื้นตัวแบบก้าวกระโดดใน 3Q23 ตามปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์วันนี้
BDMS, NYT, PTT, VGI
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) สภาพัฒน์ประกาศ GDP 2Q23 ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้: GDP 2Q23 ของไทยขยายตัว 1.8% ชะลอตัวจาก 1Q23 ที่ขยายตัว 2.6% และต่ำกว่าที่ Consensus คาดว่าจะขยายตัว 2.6-3% นอกจากนี้สภาพัฒน์ฯ ยังลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้เหลือขยายตัว 2.5-3% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 2.7-3.7%
(-) จีนลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยเกินไป: วานนี้ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) อายุ 1 ปี 0.1% สู่ระดับ 3.45% จากเดิม 3.55% แต่น้อยกว่าที่ Consensus คาดว่าจะลดดอกเบี้ย 0.15% เป็น 3.4% ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) อายุ 5 ปี คงไว้ที่ระดับ 4.2% ตามสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะปรับลด 0.15% เป็น 4.05%
(+) วันนี้ติดตามเปิดสภาฯ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี รอบที่ 3: เราคงมุมมองเดิม คาดโหวตผ่านในครั้งเดียว หลังจากที่วานนี้พรรคเพื่อไทยประกาศจับมือ 11 พรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาล มีคะแนนเสียง ส.ส. รวม 314 เสียง เหลือเพียง 61 เสียงเท่านั้น หากโหวตผ่านตามคาดจะเป็นบวกต่อการลงทุนรวม โดยเฉพาะกลุ่ม Domestic play อาทิ กลุ่มค้าปลีก, นิคม, รับเหมาฯ และหุ้นอิงการเมือง