วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ดัชนี SET มีสัญญาณรีบาวนด์ระยะสั้น
เชิงมูลค่าและทางเทคนิค คาด SET Index รีบาวนด์ แนวต้าน 1,555/1,560 จุด แนวรับ 1,540/1,529 จุด หลังจาก ปรับฐานลงมา 27 จุด (-1.7% MTD) และประมาณการ EPS ของดัชนี SET เริ่มฟื้นตัวกลับ
ทำให้เครื่องมือ KTX Implied EPS / Est EPS Trading Band ลดระดับลงจากโซน Overbought เข้าสู่โซนค่าเฉลี่ย (Figure 1) มีนัยถึงมูลค่าของดัชนีเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติ (ไม่แพง) ขณะที่รูปแบบแท่งเทียนของดัชนีฯ เริ่มเปลี่ยนจาก Downtrend มาเป็น Sideways ใน 2 วันทำการที่ผ่านมา และบริเวณ 1,540 จุด (EMA 50 วัน) ยังคงเป็นแนวรับสำคัญ ที่ยังไม่เกิดการ Break Down ทำให้โอกาสเกิด Technical Rebound มีสูงขึ้นใน 1-2 วันนี้
ประเด็นวันนี้ ปัจจัยต่างประเทศ จับตายิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งอาจกลับมาปรับสูงขึ้นรอบใหม่ และโอกาสที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. สูงขึ้น (เป็นความเสี่ยงด้านลบต่อตลาดหุ้นโลก) หากสุนทรพจน์ของ Fed NewYork Williams (Voter) และ Fed Atlanta Bostic (Non-Voter) ยังคงสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟด เพื่อให้เงินเฟ้อลดลงมายังกรอบเป้าหมาย 2% แม้ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เดือน ส.ค. เริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายการตึงตัว อัตราว่างงานปรับขึ้นไปที่ 3.8% (จาก 3.5%) และค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมง เพิ่มขึ้นเพียง +0.24% MoM (จาก +0.4% MoM) เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คือ 1. US ติดตามตัวเลข Weekly Initial Jobless Claims โดย Consensus คาดเพิ่มขึ้นเป็น 233k (Vs 228k ในสัปดาห์ก่อน) 2. China รายงานการค้าระหว่างประเทศเดือน ส.ค. โดย Consensus คาดดุลการค้าเกินดุล USD73.9bn. ส่งออกเดิบโต -9.5% YoY นำเข้า -9.4% YoY (เทียบกับเดือน ก.ค. ที่รายงานเกินดุล USD80.6bn. ส่งออก -14.5% YoY นำเข้า -12.4% YoY) ทั้งนี้ สัญญาณการส่งออกและนำเข้าที่ยังคงเติบโตลดลง ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อภาคการค้าระหว่างประเทศของโลกรวมถึงไทย 3. EU รายงาน 2Q23E GDP Growth ครั้งสุดท้าย Consensus คาดเติบโต +0.3% QoQ, +0.6% YoY (Vs 1Q23 GDP Growth +0% QoQ, +1.1% YoY) เราคาดว่าเศรษฐกิจอียูมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจเติบโตลดลง แต่เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูง) และมีความเสี่ยงเกิดภาวะถดถอย เนื่องจาก ECB ยังคงส่งสัญญาณเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ กลุ่มปลอดภัย หรือกลุ่มที่มีโมเมนตัมบวก SISB MEGA COM7
Strategic daily picks
SISB ปิด 35.75 บาท/แนวรับ 34.50 บาท แนวต้าน 38.00 บาท
SISB รายงานกำไรสุทธิและรายได้จากการขายและบริการที่ 155.43 ล้านบาท (+98.53% YoY) และ 423.33 ล้านบาท (+39.74% YOY) ใน 2Q23 รายได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดดำเนินการเรียนการสอนที่โรงเรียน (On Site) ในปีการศึกษา 2022/2023 บวกกับจำนวนนักเรียนทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น อีกทั้งทางโรงเรียนมีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมทางการศึกษาในปีการศึกษา 2022/2023 ทั้งนี้ SISB คงเป้ารายได้ปี 2023 เติบโต 30% YoY โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักเรียนมากกว่า 3.7 พันคน และการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมทางการศึกษาเฉลี่ยราว 5% ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 702.33 ล้านบาท และประเมินราคาเป้าหมายที่ 43.25 บาท
MEGA ปิด 42.00 บาท/แนวรับ 40.75 บาท แนวต้าน 44.00 บาท
MEGA เดินหน้าพัฒนาวิจัยสินค้าที่จะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องกว่า 172 รายการ โดยสำหรับในปี 23 จะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ 22 รายการ (เปิดตัวแล้วกว่า 7 รายการ) ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจเป็น 2 เท่า ภายในปี 25 จากปี 19 ที่มีรายได้ 1.11 หมื่นล้านบาท (ปี 22 มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาทแล้ว) แม้ว่าปี 23 ผลประกอบการทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากความต้องการยาและวิตามินลดลงจากช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งนี้ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 2.27 พันล้านบาท และประเมินราคาเป้าหมายที่ 52.46 บาท
COM7 ปิด 32.50 บาท/แนวรับ 31.00 บาท แนวต้าน 35.00 บาท
COM7 ประเมินภาพรวมธุรกิจใน 3Q23 จะมีการขยายตัวดีกว่า 2Q23 เนื่องจากเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจ โดยในช่วงเดือน ก.ย. 2023 คาดจะมีการเปิดตัว iPhone 15 ที่จะเข้ามากระตุ้นยอดขายใหม่ได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งในช่วง 2H23 ไม่มีการปิดปรับปรุงร้าน ซึ่งจากช่วงที่ผ่านมามีการปิดปรับปรุงร้านกว่า 40 สาขา โดยกว่าครึ่งเป็นร้าน Studio7 ที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในทำเลที่สำคัญ และจะทยอยกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติทุกสาขาภายในสิ้น 3Q23 ทั้งนี้ COM7 คาดยอดขายร้านหลังรีโนเวตจะกลับมาดีขึ้นประมาณ 15% พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2023 เติบโต 20% Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 3.46 พันล้านบาท และประเมินราคาเป้าหมายที่ 37.33 บาท