วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ติดตามการประชุมธนาคารกลางสำคัญๆในสัปดาห์นี้
บรรยากาศลงทุนชะลอตัวก่อนการประชุมธนาคารกลางสำคัญ สัปดาห์นี้ธนาคารกลางสำคัญทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED), ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
โดยปัจจัยหลักที่เราให้ความสนใจคือ 1) มุมมองดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล (Dot plot) ในรอบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างไร? ซึ่งจากเดิมกรรมการเฟดมองดอกเบี้ยสิ้นปี 2566 และ 2567 ที่ 5.50-5.75% และ 4.25-4.50% ซึ่งตีเป็นโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 4-5 ครั้ง หาก Dot plot ใหม่ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก เรามองตลาดจะตอบรับเป็นบวก แต่หากโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลดลงเหลือเพียง 2-3 ครั้ง ตลาดอาจตอบรับเป็นลบจากการที่เฟดคงดอกเบี้ยระดับสูงนาน 2) มุมมองการดำเนินนโยบายของ BOJ ซึ่งหากนโยบายตึงตัวขึ้น อาจกระทบต่อธุรกรรม Yen Carry Trade และทำให้เกิดแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้นได้ (ตลาดประเมินมีโอกาสขยับนโยบายตึงตัวมากขึ้นในช่วงปลายปีนี้)
ปัจจัยติตามในประเทศ 1) การเดินทางไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติของนายกรัฐมนตรี 18-24 ก.ย. ที่จะมีโอกาสพบนักลงทุน และการกล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมและพลังงานทดแทน 2) การขยายธุรกิจของกลุ่มเศ็นทรัลเข้าสุ่ค้าส่ง Go Wholesale ทำให้ตลาดกังวลการแข่งขันด้านราคาและกระทบต่อ CRC และ CPAXT อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นปัจจัยบวกต่อ BTG ที่น่าจะมีพันธมิตรทางธุรกิจและช่องทางการตลาดใหม่ๆ 3) ต้นทุนการผลิตที่ลดลง ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหารและการผลิตที่เกี่ยวกับอาหาร ทั้ง ZEN, M, NSL, SORKON, TU
ภาพรวมกลยุทธ์: การฟื้นตัวจาก 1,532 จุด ในสัปดาห์ก่อน ทำให้ SET ยังอยู่ใน Channel ของการขึ้นที่ยังมีเป้าหมายปลายทาง 1,580-1,600 จุด กลุ่มทีน่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง ได้แก่ พลังงาน ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ และธนาคารใหญ่ (ทางกลยุทธ์มอง KBANK และ BBL ที่มี SME เยอะ อาจบวกมากกว่ากลุ่ม) 3) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้นเด่นที่เราชอบในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ได้แก่ PTTEP, TOP, PTG, OR / CPAXT, TIDLOR / AOT, AWC, SPA / CPN, AP
หุ้นแนะนำ: KBANK*, TRUE*, TU*, SORKON*
แนวรับ: 1,535 / แนวต้าน : 1,560 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
เศรษฐาปิดประตูภาษีหุ้น ดึงทุนใหญ่โลกเข้าลงทุน - นายกรัฐมนตรี ยุติแผนเก็บภาษีขายหุ้นตลอดวาระ 4 ปี เตรียมดึงกลุ่มทุนใหญ่ต่างชาติเข้าลงทุนไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น Microsoft, Google, Estee Lauder หรือ Tesla ทั้งนี้ ภายใน 2 สัปดาห์ มีความชัดเจนด้านแหล่งเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยใช้บล็อกเชนร่วมกับแอปฯ เป๋าตังเพราะไม่ต้องมาเสียเวลายืนยันตัวตน เริ่ม 1 ก.พ. 67
กบง. ขยายตรึงราคา LPG - กบง. ขยายตรึงราคาก๊าซหุงต้มไม่เกินถังละ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปอีก 3 เดือน จนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน พร้อมคงสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลบี7 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค.นี้
PLT เซ็นค้าส่งรายใหญ่สิงคโปร์ – PLT เซ็นสัญญาให้เช่าเหมาเรือแบบ Time Charter กับบริษัทค้าส่งปิโตรเคมีภัณฑ์รายใหญ่ในสิงคโปร์ อายุสัญญานาน 15 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.นี้เป็นต้นไป เริ่มรับรู้รายได้ทันที หนุนผลงานโค้งสุดท้ายปี 66 ฟอร์มสวย
PTTGC เดินหน้าลดคาร์บอน –จับมือพันธมิตร TotalEnergies ENEOS เปิดโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Rooftop ขนาด 6.7 เมกะวัตต์ สร้างพลังงานทดแทนประมาณ 9,500 เมกะวัตต์-ชั่วโมง (MWh) ต่อปี ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่า 4,300 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
ประเด็นติดตาม: 18-24 ก.ย. BOI โรดโชว์พบนักลงทุนสหรัฐฯ/ 19 ก.ย. – EU CPI, US Building Permits, Housing Starts/ 21 ก.ย. – Fed Interest Rate Decision, US Existing Home Sales, Initial jobless claims/ 27 ก.ย. ประชุม กนง. ซึ่งธปท.จะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ลง
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)