วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ เนื่องจากนักลงทุนติดตามการประชุมกนง. โดยในช่วงบ่ายกนง. มีมติเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.50% พร้อมทั้งปรับลด GDP ปี 66 เหลือโต 2.8% จากคาด 3.6% และกนง.ลดคาดการณ์ส่งออกปีนี้เป็น -1.7% จาก -0.1%

มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,497.15 จุด +3.13 จุด +0.21% มูลค่าการซื้อขาย 46,636 ลบ. ต่างชาติ +2,056.14 ลบ. TFEX -16,482 สัญญา ตราสารหนี้ -1,502.91 ลบ.


ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 3.29 ดอลลาร์ +3.6% ปิดที่ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรลสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2566 หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาดยิ่งทำให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกเผชิญภาวะตึงตัว
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. หลังจากดิ่งลง 5.6% ในเดือนก.ค.
+ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและธุรกิจของเอสเอ็มอี เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เทียบกับไตรมาสก่อนจาก 65.90 มาอยู่ที่ 66.40 เนื่องจากผู้ประกอบการมีการปรับตัวทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น รวมถึงมีความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

 

ปัจจัยลบ  

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 68.61 จุด หรือ -0.20% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 15 ปี รวมทั้งความกังวลว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อและส่งผลให้เฟด คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน
- เว็บไซต์นิกเคอิเอเชียรายงานว่าสกุลเงินเอเชียทั้งเงินเยน เงินวอน และเงินบาทต่างดิ่งสู่ระดับต่ำสุดของปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ผลพวงจาก FED เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและมีแนวโน้มขึ้นอีกส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย ระหว่างสหรัฐกับเอเชียกว้างมากขึ้น

- กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 2.50% ให้มีผลทันทีหรือสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี และปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย GDP ปี 66 ขยายตัวเหลือ 2.8% จากเดิม 3.6% จากเศรษฐกิจชะลอลงจากภาคการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด
- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการจำนองลดลง 1.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound โดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรง ประกอบกับเม็ดเงิน Fund Flow จากนักลงทุนต่างชาติ เริ่มชะลอการไหลออก กรอบดัชนีในวันนี้ 1,490-1,510 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้รับประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. : HMPRO GLOBAL DOHOME CPALL CPAXT CRC
• หุ้นที่ได้รับประโยชน์นโยบายฟรีวีซ่า : AOT CENTEL ERW SPA RP AU
• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO DOHOME GLOBAL ILM COM7 CPALL CRC MAKRO TNP KK
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

BBL - Bloomberg Consensus 195 บาท (upside +23%)
Consensus คาดกำไร 3Q66 เติบโต 44%YoY

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

•การปล่อยสินเชื่อส่งสัญญาณฟื้นตัวเห็นได้จากปลายส.ค. 66 เงินให้สินเชื่อสุทธิแม้ลดลง 1.17%YTD แต่เพิ่มขึ้น 1.6%MoM ความสามารถในการรับมือกับ NPL อยู่ในระดับสูงจากระดับการตั้งสำรองหนี้ฯ เมื่อเทียบกับ NPL (Coverage Ratio) ณ ปลายงวด 2Q66 เท่ากับ 268% สูงสุดในกลุ่มธนาคาร (KBANK 147%, SCB 171%, KTB 180%)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อความสามารถในการรับมือกับ NPL จาก Coverage Ratio สูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดการเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนของกำไร 3Q66 และทั้งปี 66 สูงสุดในกลุ่มธนาคาร โดยคาดกำไร 3Q66F เฉลี่ย 11,047 ล้านบาท +44%YoY -2%QoQ และคาดกำไรปี 66 เติบโต 40%YoY สู่ 40,977 ล้านบาท ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ P/BV 0.60x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 0.68x แนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) M (Bloomberg consensus 54.75 บาท) เผยยอดขายต่อสาขา (SSSG) ครึ่งปีหลังโตต่อ หนุนจากวันหยุดยาวหลายช่วง นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น แถมบริหารจัดการต้นทุนได้ดี หลังราคาเนื้อหมูอ่อนตัวลง หนุนศักยภาพการทำกำไร มั่นใจรายได้ทั้งปีโต 15% ตามเป้า ลั่นเดินหน้าขยายสาขาทั้งใน-ต่างประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PR9 (Bloomberg consensus 20.80 บาท) เผยผู้ป่วยแน่น ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ RSV รวมถึงโควิด-19 ที่ยังมีแพร่ระบาด ด้าน "นพ.วิทยา วันเพ็ญ" ระบุยอดผู้ป่วย OPD-IPD ไตรมาส 3/2566 พุ่งรับไฮซีซัน หนุนรายได้ปีนี้ตามเป้าโต 5-10% ลุยตลาดต่างประเทศ เจาะเมียนมา ลาว กัมพูชา ดันสัดส่วนต่างชาติปีนี้เกิน 15% เล็งนำ AI มาช่วยรักษา คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2566 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PRAPAT (Bloomberg consensus - บาท) จับตา 3 เดือนสุดท้าย ฟรีวีซ่าหนุนนักท่องเที่ยว ดันยอดสั่งซื้อน้ำยาความสะอาดเพียบ ชี้กำลังผลิตชน 1.2 พันตันต่อเดือน เดินหน้าสร้างโรงงานใหม่รองรับ คาดอัพกำลังผลิตได้ถึง 50% แย้มสิ้นปีนี้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรออโตเมชั่น มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CHAYO (Bloomberg consensus 9.40 บาท) อวด 9 เดือนแรกปี 2566 ซื้อหนี้ใหม่เติมพอร์ตได้แล้วกว่า 8.5 พันล้านบาท ผ่านการใช้เงินเพียง 800 ล้านบาท พร้อมคาดในไตรมาส 4/2566 จะมีมูลหนี้ใหม่ออกประมูลอีกมูลค่ารวมกว่า 8-8.5 หมื่นล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะได้เข้ามาเติมพอร์ตเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 3-4 พันล้านบาท ฟุ้งยังมีเงินเหลืออีกกว่าพันล้านในมือ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาสถาบัน 4-5 แห่ง มั่นใจผลงานปี 2566 ทะลุเป้า (ที่มา ทันหุ้น)