วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RBF ผลประกอบการ 3Q66: น่าประทับใจมาก

และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 19 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิในงวด 9M66 คิดเป็น 77% ของประมาณการกำไรสุทธิเต็มปีของเรา

ยอดส่งออกที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการเติบโต

ยอดขายเพิ่มขึ้น 17% YoY เป็น 1.16 พันล้านบาท เพราะรายได้จากต่างประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่ง( +54% YoY) จากการขยายตลาด โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย ส่วนยอดขายที่เพิ่มขึ้น 10% QoQ เป็นเพราะยอดขายสินค้ากลุ่มแป้งชุบทอดในประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายกลุ่มสินค้า สองกลุ่มหลักที่เป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตคือ กลุ่มแป้งชุบทอด (50% ของยอดขาย) ซึ่งเพิ่มขึ้น 21% YoY ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์แต่งสีกลิ่นรส (33% ของยอดขาย) เพิ่มขึ้น 29%

GPM เพิ่มขึ้น 7.3ppts YoY และ 2.7ppts QoQ เป็น 39.4% เพราะ product mix และ ต้นทุนวัตถุดิบ (แป้งสาลี) ลดลง ในขณะเดียวกัน สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลง 1.4ppts YoY และ 1.1ppts QoQ เหลือ 18.3% เพราะได้อานิสงส์จากการประหยัดต่อขนาด และ ต้นทุนค่าระวางขนส่งลดลง นอกจากนี้ RBF ยังบันทึกส่วนแบ่งกำไรจาก JV 3.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1.4 ล้านบาทใน 2Q66 เนื่องจากยอดขายในอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

 

 

 

 

ผลการดำเนินงานจะแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 4Q66F

เราคาดว่าผลการดำเนินงานของ RBF จะยังคงน่าประทับใจใน 4Q66F หลังจากที่กำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q66 เพราะอุปสงค์การส่งออกยังคงแข็งแกร่ง เรามองว่าตลาดใหม่ที่มีขนาดใหญ่ของ RBF (จีน และอินเดีย) มีศักยภาพที่จะเป็นตัวจักรขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตได้ นอกจากนี้ เราคาดว่าราคาข้าวสาลีที่ลดลงน่าจะช่วยหนุน GPM ของบริษัทใน 4Q66F ในขณะเดียวกัน RBF น่าจะได้อานิสงส์จากราคาแป้งสาลีที่ต่ำในอินโดนีเซีย และ อินเดียจากโรงงานแห่งใหม่ ทั้งนี้ เรามองว่าประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F ของเราที่ 659 ล้านบาทยังมี upside อีก

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ RBF โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 12.80 บาท อิงจาก PER ที่ 32.0x (adjusted PER เฉลี่ย +0.5 S.D.) เราเลือก RBF เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มจากแนวโน้มการเติบโตที่สดใส และงบดุลที่แข็งแกร่ง (ปลอดหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย)

Risks

ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น, ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น, เศรษฐกิจถดถอย