เวสต์เทกซัส 75.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 80.61 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

เวสต์เทกซัส 75.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 80.61 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 พ.ย. 66) ราคาน้ำมันดิบปิดพุ่งกว่า 4% หลังนักลงทุนซื้อเก็งกำไรและสหรัฐฯ คว่ำบาตรเรือขนส่งเพิ่มเติม

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 4% หลังนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรและทำการชดเชยปิดสถานะการ Short Sell ก่อนหน้านี้ นอกจากนั้น ราคายังได้รับแรงหนุนจากสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับบริษัทเดินเรือและเรือขนส่งทั้งหมด 3 ราย ที่ขนส่งน้ำมันดิบของรัสเซียเกิดเพดานราคาสูงสุดของกลุ่ม G7

- เศรษฐกิจจีนยังคงได้รับแรงกดดันและอาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน หลังภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวลง โดยราคาบ้านใหม่ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน จากอุปสงค์ที่อ่อนแอ

- ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะปรับเพิ่มขึ้น 6 แท่น สู่ระดับ 500 แท่น สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 17 พ.ย.

+ ตลาดจับตาการประชุมกลุ่มโอเปคและพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 26 พ.ย. 66 โดยนักวิเคราะห์กว่า 3 รายคาดซาอุดิอาระเบียและรัสเซียจะขยายการปรับลดกำลังการผลิตส่วนเพิ่มจากปลายปีนี้ไปจนถึงสิ้นไตรมาส 1 หรือกลางปีหน้า
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มเพิ่มการส่งออกน้ำมันเบนซินมากขึ้น นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์


ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากไต้หวัน  อินเดีย และเกาหลีใต้ นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี
 

เวสต์เทกซัส 75.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 80.61 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล