วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กองทุน ESG หนุน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กองทุน ESG หนุน

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในกรอบแคบ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว หลังจากมีการรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยว ปรับตัวเพิ่มขึ้น WoW แต่มีแรงขายหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ดัชนีมีความผันผวนช่วงท้ายตลาดเนื่องจาก มีการ Rollover สัญญา TFEX

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,410.43 จุด -3.02 จุด -0.21% มูลค่าการซื้อขาย 39,286 ลบ. Program Trading -895.19 ลบ. ต่างชาติ -791.54 ลบ. TFEX +4,557 สัญญา ตราสารหนี้ -3,125.75 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 37,656.52 จุด เพิ่มขึ้น 111.19 จุด หรือ +0.30% ดัชนีทั้ง 3 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น MoM QoQ และ YoY ตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า FED จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า
+ นักเศรษฐศาสตร์ 76% คิดว่าโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ส่วนบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะถอดถอยนั้น พบว่า 40% เชื่อว่าเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจะเริ่มต้นใน 1Q67 34% คิดว่าอาจเริ่มใน 2Q67 ซึ่งสนับสนุน FED ลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นในปีหน้า
+ กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนเดือนพ.ย. +29.5%YoY บวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ในช่วง 11M66 กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนอยู่ที่ระดับ 6.98 ล้านล้านหยวน -4.4%YoY ดีกว่า 10M66 -3.4%YoY แม้ภาคเอกชนเผชิญกับอุปสงค์ที่อ่อนแอ
+ เม็ดเงินจากการเข้าซื้อกองทุน TESG วันทำการสุดท้ายปลายปีหนุนวอลุ่มตลาด

ปัจจัยลบ 

+/- กรรมการ BOJ บางคนเรียกร้องให้อภิปรายเพิ่มเติมและหารือกันในระดับลึก เกี่ยวกับการยุตินโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษในอนาคต ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นจนทำให้ BOJ ใกล้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ -1.93% ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าเรือขนส่งสินค้าจะเริ่มกลับมาเดินเรือในทะเลแดงอีกครั้งทำให้นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในทะเลแดง อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดน้ำมัน ทั้งนี้มีข่าวว่าสหรัฐซื้อน้ำมันดิบจำนวน 3 ล้านบาร์เรลเติมเต็มคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR)
 

- รัสเซียเปิดเผยว่าจะส่งปืนใหญ่รุ่นใหม่ล่าสุดประจำการบริเวณเขตทหารทางตอนเหนือซึ่งมีพรมแดนติดกับฟินแลนด์และนอร์เวย์

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ได้แรงหนุนจากนักลงทุนสถาบันที่มีสถานะซื้อต่อเนื่องจากแรงหนุนของกองทุน ESG สอดคล้องกับตลาดที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. 67 อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ลดลงจากคลายกังวลเรื่องทะเลแดงเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,400-1,420 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• SET50 หุ้นเข้า KCE หุ้นออก TIDLOR SET100 หุ้น AEONTS, ICHI, ITC, M, MOSHI, RBF, SAPPE, SISB, TKN, TOA หุ้นออก ACE, CKP, MBK, PSL, PTG, SABUY, STEC, THANI, TIPH, TQM มีผล 2 ม.ค.67
• ค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ปรับตัวขึ้น 41%QTD : RCL

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

MGI (ไม่มีราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus)
"ซื้อเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง"

•งวด 9M66 มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ 41% ธุรกิจประกวดนางงามมิสแกรนด์ 13% ธุรกิจสื่อและบันเทิง 19% ธุรกิจบริหารจัดการศิลปิน 23% และรายได้อื่นจากบริการ 4% โดยมีรายได้รวม 432 ล้านบาท +95%YoY และกำไรสุทธิ 77 ล้านบาท +111%YoY จากการจัดกิจกรรมให้ผู้ประกวดมิสแกรนด์ขายสินค้าผ่าน TikTok อัตรากำไรสุทธิปรับดีขึ้นเป็น 17.8% จาก 15% ในปี 65 บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.20 บาท yield 1.07% XD 8 ม.ค. 67 วันจ่าย 23 ม.ค. 67

•แนวโน้มรายได้และกำไร 4Q66F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ และมีโอกาสทำ new high รวมทั้งเติบโตต่อเนื่องในปี 67 จากความร่วมมือกับ TIKTOK Shop เปิดตัว Multi-Channel Network (MCN) สร้างยอดขายสินค้าผ่านผู้เข้าประกวดนางงามมิสแกรนด์ TIKTOK Creator และ Influencer

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากโมเดลธุรกิจขณะที่ข่าวผู้ถือหุ้นขายหุ้นกระทบจิตวิทยาเชิงลบต่อราคาหุ้น ทั้งนี้ ราคาหุ้นล่าสุดปรับขึ้นร้อนแรง+233% หรือกว่า 4 เท่าจากราคา IPO ทำให้ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 44x สูงกว่า P/E เฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ที่ระดับ 28x ขณะที่หุ้นมีโอกาสถูกตลาดหลักทรัพย์สั่งให้ซื้อขายด้วยบัญชี cash balance แนะนำ ซื้อเก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง

หุ้นมีข่าว

(+) CHAYO (Bloomberg consensus 6.95 บาท) วางแผนปี 2567 ผลงานโตต่อเนื่อง 25% หลังปี 2566 กวาดซื้อมูลหนี้ใหม่ เติมพอร์ตสูงทุบสถิติใหม่ กว่า 1.9 หมื่นล้านบาท ดันพอร์ตยืนเหนือ 1 แสนล้านบาท ผ่านการใช้เงินลงทุนต่ำกว่าเป้า 1.1 พันล้านบาท ยังเหลืองบอีก 900 ล้านบาท รองรับการซื้อหนี้ใหม่ในปีถัดไป ใส่เกียร์เร่งดัน CCAP เข้าระดมทุนต่อยอดธุรกิจ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASAP (Bloomberg consensus - บาท) คึกคัก! หยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ หนุนยอดเช่ารถกระหึ่ม วางหมากปี 2567 รายได้ก้าวกระโดดสู่ 3 หมื่นล้านบาท อีวีมาแรง ส่งมอบ "ฉางอัน" ล็อตแรก 2,000 คันช่วงมกราคมนี้ รับทรัพย์ก้อนโตได้ดี ครม.ไฟเขียวส่งเสริมอีวี 3.5 ตลอด 4 ปี อุดหนุนรถยนต์อีวีไม่เกิน 1 แสนบาท ดันยอดขายรถอีวีสดใสแตะ 2 หมื่นคัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HMPRO (Bloomberg consensus 16.00 บาท) คาดยอดขายปี 2567 โตตามตัวเลข GDP ในประเทศ 2-4% หรือมากกว่าเล็กน้อย และวางแผนขยายสาขาต่อเนื่อง ทั้งโฮมโปรและเมกาโฮม วางงบลงทุนเบื้องต้น 5,000-6,000 ล้านบาท ด้านโบรกคาดโครงการ Easy e-reciept ที่จะเริ่มใช้ในช่วงไตรมาส 1/2567 ช่วยเพิ่มยอดขาย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DTCENT (Bloomberg consensus - บาท) ประเมินภาพรวมธุรกิจในปี 2567 สดใส ภาครัฐเดินหน้าลงทุนต่อยอดโปรเจ็กต์สมาร์ทซิตี้ หนุนโอกาสคว้างานใหม่เข้ามาเติมพอร์ต วางเป้ารายได้ปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีนี้ พร้อมรุกขยายสาขาเพิ่ม 20-30 สาขา กระจายทั่วประเทศ เล็งอัพฐานต่างแดน แย้มมีดีลใหม่อยู่ระหว่างเจรจา คาดรู้ผลเร็วๆ นี้ (ที่มา ทันหุ้น)