วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI สูงกว่าคาด
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แรงขายกระจายตัวในหลาย sector โดยนักลงทุนติดตามการรายงานเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,408.24 จุด -5.28 จุด -0.37% มูลค่าการซื้อขาย 35,537 ลบ. Program Trading -718.09 ลบ. ต่างชาติ -1,066.36 ลบ. TFEX -8,256 สัญญา ตราสารหนี้ -8,780.71 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 15.29 จุด หรือ +0.04% ได้แรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดและข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ซึ่งอาจทำให้ FED ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงนานขึ้น
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ +0.9% ปิดที่ 72.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งในอ่าวโอมาน ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
+ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน แถลงว่าจีนต้องการทำงานร่วมกับสหรัฐเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศในช่วงหลายปีข้างหน้า
+ ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมเพิ่มเวลาซื้อขายหุ้นไทยจาก 4.30 ชั่วโมง เป็น 5 ชั่วโมง โดยเปิดทำการซื้อขายภาคเช้า 10.00-12.30 น. เช่นเดิม แต่ภาคบ่ายจะเปิดเร็วขึ้น 30 นาที จากเดิม 14.30-16.30 น. เป็น 14.00-16.30 น.
ปัจจัยลบ
- นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่คาดว่า FED จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.1% ในเดือนพ.ย. และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งจากตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 202,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 210,000 ราย
- FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 67% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. ซึ่งลดลงจากระดับ 71% ในช่วงก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข CPI
- รัฐบาลอิสราเอลเตรียมต่อสู้คดีในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาในการพิจารณาคดีในวันที่ 11-12 ม.ค.โดยศาลโลก
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงจากสงครามอิสราเอล-ฮามาส การโจมตีเรือขนส่งสินค้าในทะเลแดงที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทย และการชำระคืนหนี้ของตราสารหนี้มูลค่าหลายแสนล้านบาท
- กองทัพเรืออิหร่านยึดเรือเซนต์นิโคลาส (St. Nikolas) ในอ่าวโอมาน ทั้งนี้ เรือดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกน้ำมันซึ่งอิหร่านเคยมีข้อพิพาทกับสหรัฐเมื่อเดือนต.ค.2566
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสูงกว่าตลาดคาด ซึ่งอาจทาให้เฟด ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,400-1,415 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• หุ้นเด่น IAA : AOT CPALL CPN GPSC
หุ้นรายงานพิเศษ
I2 - ซื้อ (Bloomberg Consensus 3.08 บาท)
"กำไรงวด 9M66 เติบโต 307%YoY"
•งวด 9M66 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการจำนวน 838 ลบ. +38%YoY สาเหตุหลักมาจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จากการทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบ IP Core เจ้าของโครงการคือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นด้านการจัดการ และประหยัดพลังงาน (Energy) จากการทยอยจัดซื้อ และติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าของโครงการคือ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จากัด บริษัทมี %GPM 14.2% เพิ่มขึ้นจากระดับ 12.1% ในงวด 9M65 ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 56 ลบ. +307%YoY คิดเป็น %NPM 6.6% สูงขึ้นจาก 2.2% ในงวด 9M65
12 January 2024
•ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานปี 67 ของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตทั้งจากธุรกิจ IT Infrastructure ธุรกิจด้าน Digital Transformation และธุรกิจด้านพลังงาน (Energy) จากการเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ โดยในปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้ 1,569 ลบ. มี Backlog สิ้นงวด 3Q66 จำนวน 2,230 ลบ. โดยราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 3.08 บาท มี Upside ราว 41% เราจึงแนะนำ"ซื้อ"
หุ้นมีข่าว
(+) ORI (Bloomberg consensus 11.10 บาท) บุกหนักเมืองท่องเที่ยว ภูเก็ต-เขาใหญ่ ยกทัพกลุ่มบริษัทพัฒนาอาณาจักรมิกซ์ยูสในทำเลศักยภาพ มูลค่าโครงการรวม 11,000 ล้านบาท ประเดิมเฟสแรก คอนโด โซ ออริจิ้น บางเทา บีช ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างไตรมาส 3/2567 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) NER (Bloomberg consensus 5.98 บาท) ตั้งเป้าปี 2567 ปริมาณขายรวมที่ 5.1 แสนตัน จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ลุยก่อสร้างโรงงานยางแท่งและยางผสมแห่งที่ 3 กำลังการผลิตที่ 302,400 ตัน พร้อมเจรจาลูกค้าใหม่รับทรัพย์ ด้าน ESG บริษัทยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานในทุกมิติ ควบคู่ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MINT (Bloomberg consensus 40.00 บาท) ลั่นธุรกิจแกร่ง โรงแรมสร้างกระแสเงินสดอื้อ เดินหน้านำเงินก้อนใหญ่กว่า 133 ยูโร ลดหนี้แล้วช่วงธันวาคม ชูธันวาคมอัตราเข้าพักสูง 75% ค่าห้องเพิ่มอีก 10% โดดเด่นกว่าก่อนโควิดแล้ว พร้อมใช้กระแสเงินสดชำระหนี้ต่อเนื่อง ดึงหนี้สินต่อทุนลงต่ำ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SCAP (Bloomberg consensus - บาท) มั่นใจพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อทั้งปี 2566 เติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 60% และจะโตต่อเนื่องทุกไตรมาสในปี 2567 หนุนจากความต้องการสินเชื่อที่สูง บรรยากาศการแข่งขันลดความรุนแรงลงหลังผู้เล่นลดลง มั่นใจกลยุทธ์เชิงรุกเหมาะสมสอดคล้องกับเกณฑ์ควบคุม ควบคู่ขยายฐานรุกต่างประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)