วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ LPN กำไร 1Q67 แย่ลง YoY แต่ดีกว่าคาด
อย่างไรก็ตามกำไรที่ออกมาดีกว่าเราคาดไว้อยู่ที่ 43 ล้านบาท และ Bloomberg consensus คาดไว้ที่ 52 ล้านบาท เบื้องต้นเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาด ทั้งนี้ กำไรใน 1Q67 ดีขึ้นจากที่ซบเซาใน 4Q66 ซึ่งมีการปรับรายการทางบัญชี
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานเทียบ YoY ยังไม่ดี โดยที่ รายได้จากการขายที่อยู่อาศัย แย่งลง 38% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 793 ลบ. แต่ว่า อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นอยู่ที่ 26% (รวมรายการบวกกลับทางบัญชี) ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่ รายได้จากธุรกิจให้เช่า/ธุรกิจให้บริการและธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการเพิ่มขึ้น 15% YoY อยู่ที่ 614 ล้านบาท ในแง่รายจ่ายด้าน SG&A และต้นทุนการเงินควบคุมได้ดี โดยลดลงทั้ง YoY และ QoQ
ผลการดำเนินงาน YTD ยังต่ำกว่า guidance ปี 2567F ของบริษัท
แม้ว่า กำไรใน 1Q67 คิดเป็น 28% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเราที่ 304 ลบ. (-14% YoY) เรายังคงประมาณการปี 2567F ไว้เช่นเดิมเพราะเรายังไม่แน่ใจกับผลการดำเนินงานในช่วงการปรับโครงสร้างผู้บริหาร นอกจากนั้น LPN วางแผนเปิดโครงการใหม่ ๆ ปีนี้น้อย โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6.5 พันลบ (-40%YoY) ขณะที่ พรีเซลช่วง YTD ยังซบเซาโดยต่ำกว่าเป้าหมายเต็มปีนี้ราว 20% อยู่ที่ 1.1 หมื่นลบ. เรามองว่ามาตรการกระตุ้นภาคอสังหา ฯ จากภาครัฐล่าสุด LPN อาจไม่ได้รับประโยชน์มากนัก เพราะโครงการของ LPN ราว 64% จากโครงการทั้งหมดตั้งราคาไว้ต่ำกว่า 3 ลบ./ยูนิต โดยมุ่งเน้นตลาดระดับล่าง ซึ่งยังเผชิญกับช่วงเวลายากลำบากหลายปีที่ผ่านมาท่ามกลางมาตรการต่าง ๆ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่วนโครงการอีกราว 20% ตั้งราคาขายระหว่าง 3-7 ลบ./ยูนิตซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่ได้อานิสงส์จากมาตรการจากภาครัฐดังกล่าวข้างต้น
Valuation & action
เราคงคำแนะนำขาย ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 2.80 บาท อิงจากค่าเฉลี่ยระหว่าง -1SD ของ PB ที่ 0.5x กับ-1SD ของ PE ที่ 7.6x ขณะที่ net gearing ใน 1Q67 ของบริษัทอยู่ที่ 1.1x โดยสูงกว่าผู้ประกอบการอื่นในกลุ่มที่ต่ำกว่า 1x อย่างไรก็ตาม CEO ท่านใหม่ยังคงยืนยันกลยุทธ์ระบายบ้านค้างสต็อกซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านที่ขายออกได้ช้าราว 2.8 หมื่นลบ.ออกแม้จะต้องลดอัตรากำไรขั้นต้นลง เพื่อกระตุ้นยอดขายโดยเร็วเพิ่มกระแสเงินสดเข้าและลด net gearing ลง ทั้งนี้ ยังมีการเตรียมขายแบบ big lot อยู่อีกหลายดีล
Risks
ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ โอกาสการปฏิรูปนโยบายจากภาครัฐ การให้สินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้นท่ามกลางภาวะหนี้สินภาคครัวเรือนสูงยืดเยื้อ รวมทั้ง การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ