วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ยังผันผวน
วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพาณิชย์ จาก ครม. เห็นชอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท ใช้ดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ได้ภายในวันที่ 30 ก.ย.
มีแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคาร จากธนาคารปล่อยสินเชื่อรถยนต์ปรับตัวลดลง กังวลขาดทุน จากรถยึดเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/67 ส่งผลให้ SET Index ปิดตลาดที่ 1,338.32 จุด +1.00 จุด +0.07% มูลค่าการซื้อขาย 38,600 ลบ. Program Trading -914.5 ลบ. ต่างชาติ -121.2 ลบ. TFEX -14,866 สัญญา ตราสารหนี้ +2,528.05 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 96.04 จุด หรือ +0.25% ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตลาดได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งความหวังที่ว่าข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอจะทำให้ เฟด เริ่มพิจารณาปรับลด อัตราดอกเบี้ย
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ +1.12% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความหวังที่ว่าเฟด จะปรับลด อัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน และช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด
+ ADP เปิดเผย การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น เพียง 152,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.
+ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจ การเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ ในตลาดแรงงาน ลดลงสู่ระดับ 8.06 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 69% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 50% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+ รมว.คลังปฏิเสธกรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะแจกเงินตามโครงการ เติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตให้กลุ่มเปราะบาง 14.98 ล้านคนก่อน โดยขอยืนยันว่าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นไปตามกำหนดเดิม เพียงแต่จะมีการแบ่งเป็นกลุ่มในการยืนยันตัวตนเท่านั้น
ปัจจัยลบ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 54.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากระดับ 51.3 ในเดือนเม.ย.
- ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2566 จากระดับ 49.4 ในเดือนเม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.8
- กองทัพเรือสหรัฐระบุ ว่า กลุ่มฮูตีของเยเมนได้ยิงขีปนาวุธต่อต้านเรือ (ASBM) จำนวน 2 ลูกลงสู่ทะเลแดงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
- นายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลจะยังคงเดินหน้าใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตี ฉนวนกาซา โดยจะไม่มีการระงับการดำเนินการดังกล่าว แม้ในระหว่างที่มีการเจรจาปล่อยตัวประกันกับทางฮามาส
- กกร.ห่วงสงครามการค้าจีน-อเมริกา ปะทุรุนแรงอีกระลอก กระทบส่งออกไทย หวังรัฐมีมาตรการเพิ่มขีดความสามารถ เผยเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า หนี้ครัวเรือนเรื้อรัง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ จะทำให้เฟด เริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ปัจจัยในประเทศยังมีความไม่แน่นอนทางการเมือง ในประเทศส่งผลให้นักลงทุนชะลอลงทุน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,330-1,345 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• Digital Wallet : CPALL BJC CRC DOHOME GLOBAL HMPRO
• สินค้าส่งออกเดือน เม.ย. เติบโตดี : AAI ITC STA NER TRUBB XO TFG BTG
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET50 เข้า : BCP BJC ITC TIDLOR ออก : BANPU COM7 KCE SAWAD
• คาดหุ้นเข้าคำนวณ SET100 เข้า : BA BJC CKP JAS MBK PRM QH SKY TIPH
ออก : AURA BYD FORTH MOSHI NEX ORI SNNP THG TKN
• มาตรการลดภาษีเที่ยวเมืองรอง : ERW CENTEL BA AAV TNP CPALL
หุ้นรายงานพิเศษ
CFARM - บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน)
<MAI / AGRO> ราคา IPO 1.35 บาท
ราคาเหมาะสม consensus 1.48-1.57 บาท
•CFARM ดำเนินธุรกิจฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา ณ ปลายงวด 1Q67 มีโรงเรือน 121 โรง จำนวนลูกไก่ 2.09 ล้านตัว อายุเฉลี่ย 24 วัน อัตราการเลี้ยงรอด 97% โครงสร้างรายได้ในงวด 1Q67 มีรายได้จากการเลี้ยงไก่ 94% และรายได้จากการจำหน่ายผลิตผลพลอยได้ (รายได้จากการขายขี้ไก่บนวัสดุรองพื้นนาไปทำปุ๋ยอินทรีย์และวัตถุดิบ ในการผลิตไฟฟ้า 4% อีก 2% เป็นรายได้อื่น
•ในปี 2564 – 2566 มีรายได้ 163 ลบ. 229 ลบ. และ 241 ลบ. รายได้เติบโตจากการเลี้ยงไก่เนื้อตามพันธสัญญา และการจำหน่ายผลิตผลพลอยได้ กำไรสุทธิ (38.08) ลบ. 21.97 ลบ. และ 30.49 ลบ. ตามลำดับ ในปี 2564 ได้รับผลกระทบจาก การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 คู่สัญญาชะลอรับไก่ทำให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนเลี้ยงไก่เพิ่มขึ้น ปี 2565 กลับสู่สภาวะปกติและปรับดีขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 อัตรากำไรสุทธิในปี 2564 -2565 เท่ากับ (23%) 9.6% และ 12.7% ตามลำดับ สำหรับงวด 1Q67 บริษัทมีรายได้รวม 52.35 ลบ. กำไรสุทธิ 1.85 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 3.54%
•จำนวนหุ้น IPO 149 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.69% ของหุ้นทั้งหมด มูลค่าการเสนอขาย 201.150 ลบ. PAR 1 บาท ราคา IPO คิดเป็น P/E 26.18X เทียบกับกลุ่ม AGRO ในตลาด MAI 33.45X และบริษัทที่คล้ายคลึงกันได้แก่ CPF (P/E 10.72x) BTG, TFG และ GFPT (ผลการดำเนินงาน 4 ไตรมาสย้อนหลังขาดทุนทำให้ไม่สามารถคำนวณค่า P/E ได้)
•วัตถุประสงค์ในการระดมทุน 1) เพื่อก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ 156.62 ลบ. ภายในปี 2569 2) เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ 20.00 ลบ. ภายในปี 2563 3) คืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน 15.00 ลบ. ภายในปี 2567
หุ้นมีข่าว
(+) PTG (Bloomberg consensus 10.00 บาท) ชี้รัฐทยอยปรับขึ้นน้ำมันดีเซลดันค่าการตลาดเพิ่มขึ้นสู่ 1.7-1.8 บาท ชี้ค่าการตลาดควรเกิน 2 บาท ส่งซิกไตรมาส 3/2567 ยอดขายน้ำมันโตต่อที่ระดับ 8-12% แม้โลว์ซีซัน ขณะที่การจัดจำหน่ายก๊าซ LPG ตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไว้ที่ 30-40% ส่วนธุรกิจนอนออยล์ เดินหน้าขยายสาขากาแฟพันธุ์ไทยแตะ 1,500 สาขา ตามเป้าที่วางไว้ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MC (Bloomberg consensus 15.50 บาท) มั่นใจรายได้งวดปี 2567 (สิ้นสุดมิ.ย. 67) เกิน 4 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้างวดปี 2568 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ดีกว่ายอดขายที่วางเป้าโต 9-10% ชูยอดขายออนไลน์มาแรงตั้งเป้าสัดส่วน 12% ปีหน้า เดินหน้าลดต้นทุน ออกสินค้าใหม่-จัดโปรโมชัน ทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ รักษากรอสมาร์จิ้นระดับ 64-65% แจงแผนขยายต่างประเทศอยู่ระหว่างศึกษา (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BCH (Bloomberg consensus 25.00 บาท) จ่อเปิดรพ.มะเร็ง สิ้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดมีรายได้เพิ่มปีละ 100 ล้านบาท พร้อมลุยขยายศูนย์ศัลยกรรม หลังกระแสตอบรับดี ด้านศูนย์ IVF-ประกัน สังคมโตต่อเนื่อง ชี้เข้าไฮซีซันโรงพยาบาลหนุนผู้ป่วยเพิ่ม ขณะที่ผู้ป่วยต่างชาติขยายตัว มั่นใจผลประกอบการเติบโตสองหลัก โบรกชูหุ้นเด่นกลุ่มโรงพยาบาล (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SAFE (Bloomberg consensus 24.00 บาท) เปิดแผนครึ่งปีหลัง 2567 ออกเทคโนโลยีช่วยผู้มีบุตรยาก PGT A Seq เพิ่มอัตราความสำเร็จในการใส่ตัวอ่อนมากขึ้น คาดเป็นตัวช่วยผลักดันรายได้ใหม่ของบริษัท มองแนวโน้มการมีบุตรยากในปัจจุบันยังสูง ลูกค้าต่างชาติสนใจเข้ารับบริการจำนวนมาก ปัจจุบันครองสัดส่วนสูงกว่า 50% (ที่มา ทันหุ้น)